ส่วนทสี่ ี่ 
เอกสารว่าด้วยเรื่องจริยธรรมจากการประชุมสภาปฏิสัมพนั ธ์ 

 
แถลงการณ์กรุงโรม (1987) 
 

การประชุมปรึกษาหารือปัญหาทมี่ ีความสัมพนั ธ์กนั เรื่องสันติภาพการพฒั นาประชากรและส่ิงแวดล้อม 
ลา ซิวลิ ตา กตั โตลกิ า,

วนั ที่ 9-10 มีนาคม ปี 1987, กรุงโรม อติ าลี 

คานาของแถลงการณ์กรุงโรม
ทาเคโอะฟูกดุ ะ
ประธานกติ ติมศักด์ิ สภาปฏิสัมพนั ธ์ 


สิงที่ผมห่วงใยมากที่สุดก็คือสถานการณ์ยากลาบากที่โลกกาลงั เผชิญอยู่ ไม่วา่ เราจะมองโลกในทางการเมือง การทหาร หรือเศรษฐกิจ ล้วนแต่มีปัญหามากมาย และสภาวะทางกายภาพที่แวดล้อมชีวิตของเรา เช่น ประชากร การพฒั นาและสิงแวดลอ้ ม ลว้ นแต่เป็นวิกฤติการณ์ที่ไม่เคยเกิดข้ึนมาก่อน เราคงไม่มีอนาคตแน่ ถา้ เราไม่สามารถจดั การกบั สภาพแวดลอ้ มที่เป็ นอนั ตรายดงั กล่าว ถา้ เราตอ้ งการเก็บโลกที่มีความปลอดภยั แก่ลูกหลานของเรา ก็ตอ้ งมีความบากบนัและความพยายามที่มุ่งมนั่ 
  ดว้ ยตระหนกั ในเร่ืองดงั กล่าว ผมจึงจดั การประชุมสภาปฏิสัมพนั ธ์เม่ือปี 1983 ร่วมกบั อดีตผนู้ าแห่ง รัฐและรัฐบาลเพื่อพิจารณาว่าจะแกไ้ ขปัญหาดงั กล่าวและดาเนินการตามการวินิจฉัยของเราอย่างไร แมว้ ่า ผนู้ าซ่ึงยงั อย่ใู นตาแหน่งจะมีความห่วงใยในเรื่องดงั กล่าวเช่นกนั แต่ดว้ ยเหตุท่ีมีภารกิจประจาวนั และถูก จากดั ดว้ ยเร่ืองผลประโยชน์แห่งชาติของแต่ละท่าน ผมคิดวา่ อดีตผนู้ าที่มากดว้ ยประสบการณ์มีภูมิปัญญาใน มิติต่างๆ ก็ไม่ได้นิงนอนใจ และสภาปฏิสัมพนั ธ์มีการประชุมใหญ่เต็มคณะทงั หมดห้าวาระ รวมทงั การ ประชุมกลุ่มศึกษาพเิศษอีกหลายครังซ่ึงเราก็ไดส้ ร้างผลกระทบต่อโลกไดม้ ากทีเดียว 
  แต่ผมคิดไปไกลกวา่ นนั ผมรู้สึกมานานแลว้ วา่ สันติภาพและสวสั ดิภาพของมนุษยชาติ เกี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มทางศาสนามากพอๆกบั บุคคลทางการเมือง ดงั นนั การมาร่วมกนั อภิปรายในปัญหาและประเด็นที่อยใู่ น ความสนใจร่วมกนั จะไม่มีความสาคญั ต่อผนู้ าทางการเมืองและทางศาสนาเลยหรือ? ผมเชื่อวา่ จะสามารถ สร้างความเขา้ ใจในส่วนของกลุ่มทางศาสนาและน่าจะหาหลกั การร่วมกนั บางอย่างได้ เพราะถึงอย่างไร ความสาคญั ของมนุษยก์ ็เป็นสิงที่ยอมรับกนั ในทางสากล 
  ดงั นันสมาชิกสภาปฏิสัมพนั ธ์บางส่วน จึงมาประชุมร่วมกบั ผูน้ าของศาสนาสาคญั ของโลกห้า ศาสนาที่กรุงโรมในฤดูใบไมผ้ ลิปี 1987 และเป็นที่เห็นพอ้ งกนั วา่ สถานการณ์โลกเลวร้ายมากจนดูแลว้ ไม่มี อนาคตสาหรับมนุษยชาติอีกต่อไป ถา้ หากว่าเราไม่สามารถจดั การกบั ปัญหาที่เรากาลงั เผชิญอยู่ในขณะน้ี และไม่มีช่องวา่ งให้ผนู้ าทางการเมืองและศาสนาไดร้ ่วมกนั แกไ้ ขปัญหาบางอยา่ งผมรู้สึกปล้ืมปิติเป็นอยา่ ง มากที่ไดย้ นื ยนั ต่อท่านวา่ บดั น้ีมีความเห็นพอ้ งกนั อยา่ งกวา้ งขวาง เก่ียวกบั ปัญหาพ้ืนฐานของโลก โดยผแู้ ทน ของกลุ่มผเู้ ขา้ ประชุมซ่ึงมีความคิดเห็นแตกต่างและบางอยา่ งอาจขดั แยง้ กนั บา้ ง 
  ขอ้ ตกลงท่ีบรรลุในกรุงโรมครังน้ี เป็นกาลงั ใจใหเ้ ราดาเนินความพยายามอีกต่อไป การประชุมครัง น ้ ี น บั เ ป ็ น ค ว า ม พ ย า ย า ม ท ่ ี ไ ม ่ เ ค ย ม ี ม า ก ่ อ น ใ น ป ร ะ ว ตั ิ ศ า ส ต ร ์ ข อ ง ม น ุ ษ ย ช า ต ิ แ ล ะ เ ป ็ น ส ิ ง ท ี ่ ม ี ค ่ า ย ิ งผ ม ร ู ้ ว า่ ค ว า ม พยายามอยา่ งต่อเนื่องเพื่อแสวงหามติร่วมกนั จะทาใหเ้กิดปฏิบตั ิการร่วมกนั ตามมาผมรู้สึกปล้ืมปิติที่ไดร้ ับ การยนื ยนื ดว้ ยตาของตวั เอง และผมขอแสดงความสานึกในบุญคุณอยา่ งลน้ พน้ ต่อโชคชะตาฟ้ าลิขิต


คานาของแถลงการณ์กรุงโรม 
 
เฮลมุท ชมิดท์ 
 
ประธาน สภาปฏิสัมพนั ธ์ 


จากความประทบั ใจที่ผมไดร้ ับจากการสนทนากบั อนั วาร์ เอล ซาดตั (อดีตประธานาธิบดีอียปิ ต)์ ช่วงกลาง ทศวรรษ 70 และโดยเฉพาะอยา่ งยงิหลงั จากไดส้ ะทอ้ นคิดเก่ียวกบั ซาดตั มากข้ึน ความสนใจใคร่รู้ของผมใน เร่ืองความสอดคลอ้ งและความเกี่ยวขอ้ งกนั ของศาสนา ปรัชญา และจริยธรรม ระหวา่ งแหล่งวฒั นธรรมของ โลกน้ี เริมมีมากข้ึน เพราะถา้ ปราศจากความเขา้ ใจก็ยากท่ีจะส่งเสริมใหเ้ กิดสันติภาพ 
  แต่ไม่ว่าจะเป็นท่ีปาเลสไตน์หรือที่แห่งใดในโลก ก็ยากที่จะจินตนาการแนวคิดเรื่อง สันติภาพที่ เป็นนิรันดร” (ที่เผยแพร่โดย อิมมานูเอล คานต)์ เป็นความจริงข้ึนมา แน่นอนวา่ คนส่วนใหญ่ยอมรับค่านิยม ทางศีลธรรมของเป้าหมายน้ีอยแู่ ลว้ แต่เราก็สามารถสรุปจากประวตั ิศาสตร์ไดเ้ช่นกนั วา่ มนั มีความเป็นไปได้ สูงวา่ จะมีการใชอ้ าวธุ ในการแกไ้ ขความขดั แยง้ อีกเช่นกนั ทงั ที่มีสันนิบาตชาติหรือสหประชาชาติ และถึงแม้ จะมีชาติมหาอานาจซ่ึงมีอิทธิพลอยา่ งกวา้ งขวางในโลกก็ตาม 
  ถึงกระนัน ความจริงก็ยงั คงเป็นความจริง ถ้ามีการบรรเทาและเปลี่ยนความขดั แยง้ ให้เป็นการ ประนีประนอมก่อนท่ีมนั จะนาไปสู่การใชก้ าลงั ระหว่างประเทศเร็วข้ึนและบ่อยครังข้ึน ก็มีความหวงั ท่ีจะ หลีกเล่ียงสงครามได้มากข้ึนเช่นกนั หรือในทางกลบั กนั ยิงคนเราเลือกที่จะใช้ศาสนาชาตินิยมเผ่าพนั ธุ์ หรือลทั ธิหวั รุนแรงทางอุดมการณ์และลทั ธิยดึ มนัในหลกั การพ้ืนฐานมากเท่าไร ก็จะเกิดความเขา้ ใจระหวา่ ง กนั นอ้ ยลง และมีความเป็นไปไดข้ องการใชก้ าลงั และสงครามมากข้ึน 
  ความปรารถนาที่จะรับฟังร่วมกนั น่ีเอง ท่ีนาเอาผนู้ าทางศาสนาและทางการเมืองมารวมตวั กนั ที่กรุง โรม เราไม่เพียงแต่เขา้ ร่วมการประชุมในฐานะมุสลิม ยิว และคริสเตียน ฮินดูและพุทธ หรือในฐานะนกั คิด อิสระเท่านนั แต่เรายงั มาในฐานะนกั ประชาธิปไตยและคอมมิวนิสต์ นกั อนุรักษห์ รือนกั เสรีนิยมดว้ ย เรามา จากระบอบการปกครองแบบเผด็จการที่แตกต่างกนั หรือประชาธิปไตยท่ีแตกต่างกนั เรามาจากทวปี ทงั ห้า ของโลกเราคือคนผวิ ดานาตาลเหลืองหรือขาวถึงจะมีความแตกต่างมากมายขนาดนนั แต่เราไม่เพียงแต่มี ความเขา้ ใจกนั และกนั เท่านนั แต่เรายงั เห็นพอ้ งกนั ในประเด็นปัญหาที่เป็นเรื่องสาคญั มากอีกดว้ ย 
  การเห็นพอ้ งกนั ในเร่ืองความปรารถนาสันติภาพดูเหมือนเรื่องง่าย แต่จริงๆแล้วยากที่จะสนอง สันติภาพในการปฏิบตั ิและการละเวน้ ปฏิบตั ิในชีวิตประจาวนั ของเรา ทงั ในส่วนของผนู้ าทางศาสนาและ ทางการเมืองพอๆกนั เช่นเดียวกบั เร่ืองการเพิมข้ึนอย่างรวดเร็วของประชากรโลก ที่ยงั ไม่สามารถทาให้ ชะลอตวั ลงได้ และกาลงั จะทาใหค้ นหลายพนั ลา้ นคนมีความลาบากทางเศรษฐกิจในอีกไม่กี่รุ่นขา้ งหนา้ และ ยงั หมายถึงการบริโภคพลงั งานซ่ึงจะทาให้ชนั บรรยากาศล่างสุดเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภายในเวลาไม่กี่ทศวรรษและส่งผลใหเ้กิดปฏิกิริยาเรือนกระจกท่ีนาไปสู่ผลลพั ธ์ท่ีเป็นความหายนะแก่คน จานวนมากข้ึน ก็ดูเหมือนมีการตระหนกั ถึงเรื่องน้ีอย่างง่ายดายเช่นกนั ทว่าในการปฏิบตั ิและละเวน้ การ ปฏิบตั ิในชีวิตประจาวนั ของเรา ก็ทาให้ยากต่อการชะลอการเติบโตของประชากรโลก และทาให้การ วางแผนครอบครัวเป็นจุดประสงคข์ องคู่สมรสหลายพนั ลา้ นคู่ 
  ดงั นนั มนั จึงเป็นสัญญาณสาคญั ท่ีผนู้ าทางศาสนาและการเมืองจากทุกภาคส่วนของโลก ยอมรับถึง ความสาคญั ของการวางแผนครอบครัว และจะตอ้ งทาให้ผนู้ าท่านอื่นๆ ตระหนกั ถึงความสาคญั ของปัญหาน้ี เช่นกนั 
  การเสียสละไม่ใช่การกระทาเพียงฝ่ายเดียว เพราะในการให้นนั คือการไดก้ ลบั มาดว้ ย ช่วงสินสุด ศตวรรษท่ี 20 ภยั คุกคามต่อมนุษยชาติ สามารถหลีกเล่ียงไดด้ ว้ ยความเป็นนาหน่ึงใจเดียวกนั 



แถลงการณ์ว่าด้วยประเด็นของโลก 

บทนา 
เป็นครังแรกในประวตั ิศาสตร์ช่วงหลงั ที่ผนู้ าทางการเมืองและทางศาสนาจากทุกทวีปและศาสนาสาคญั ห้า ศาสนา มาพบปะกนั ท่ีกรุงโรม ตามคาเชิญของสภาปฏิสัมพนั ธ์ ตลอดเวลาสองวนั ผเู้ ขา้ ร่วมการประชุมไดม้ ี ส่วนในการอภิปรายเร่ืองสันติภาพของโลกเศรษฐกิจโลกและเร่ืองการพฒั นาประชากรและสิงแวดลอ้ มท่ี มีความสมั พนั ธ์กนั 
  ผนู้ าเห็นพอ้ งกนั วา่ มนุษยชาติกาลงั เผชิญกบั วกิ ฤติการณ์หนกั หนาสาหสั ท่ีสุดในประวตั ิศาสตร์ ทวา่ ยงั ไม่มีการคิดหรือจดั ทามาตรการเพื่อแกไ้ ขวิกฤติการณ์ดงั กล่าวอย่างเพียงพอ แต่ถา้ ไม่มีการตอบสนองต่อ ความทา้ ทายที่เกิดจากวกิ ฤติการณ์ดงั กล่าวอยา่ งมีประสิทธิผลและถูกตอ้ งแลว้ ก็จะไม่มีอนาคตที่ยงัยนื 
  นอกจากน้ีพวกเขายงั เห็นพอ้ งกนั ดว้ ยวา่ ในการจดั การกบั ปัญหาเหล่าน้ีนนั มีส่วนที่สามารถร่วมมือ กนั ได้ระหว่างผูน้ าทางจิตวิญญาณและผูน้ าทางการเมือง ในการร่วมกันทุ่มเทเพื่อค่านิยมทางศีลธรรม สนัติภาพและสวสัดิภาพของมนุษยห์ลายส่วนดว้ยกนั 
  การแลกเปล่ียนทศั นะในเบ้ืองตน้ น้ีส่งผลให้เกิดการรับรู้ร่วมกนั การประเมินภยั อนั ตรายในปัจจุบนั และการตระหนกั ถึงความจาเป็นที่จะตอ้ งมีปฏิบตั ิการซ่ึงเกิดจากพ้ืนฐานทางจริยธรรมร่วมกนั ในระดบั ที่น่า ท่ึง 
  ผูน้ าท่ีมารวมตวั กันในกรุงโรมน้ี ต่างเห็นพอ้ งกนั ว่าจะตอ้ งมีการติดต่อสัมพนั ธ์กนั ระหว่างสภา ปฏิสัมพนั ธ์และผอู้ ื่นในระดบั โลกและระดบั ภูมิภาค โดยมีผูน้ าทางการเมือง ทางปัญญาและวิทยาศาสตร์ อยา่ งต่อเนื่อง และควรใหม้ นั มีผลต่อกระบวนการตดั สินใจทางการเมืองดว้ ยการสนบั สนุนจากสื่อดว้ ย 


สันติภาพ 

ทุกวนั น้ี สันติภาพไดส้ ูญเสียความหมายแทจ้ ริง ในโลกที่นบั แต่สงครามโลกครังท่ีสองเป็นตน้ มา ไม่เคยมีสัก วนั เดียวท่ีไม่มีสงคราม ความขดั แยง้ ความยากจน และความเสื่อมโทรมของมนุษยแ์ ละสิงแวดลอ้ มในวง กวา้ ง หลกั การทางจริยธรรมท่ีผูร้ ่วมการประชุมยึดถือร่วมกนั น้ี ทาให้พวกเขาได้ขอ้ สรุปว่าสันติภาพจะ เกิดข้ึนไดด้ ว้ ยกระบวนการเสวนา และการทาความเขา้ ใจในทุกภาคส่วนของสังคมและการติดต่อสัมพนั ธ์ ระหวา่ งประเทศ 
  ดงั นนั ผรู้ ่วมการประชุมทุกคน จึงยนิ ดีตอ้ นรับต่อความพยายามท่ีจะให้มีการลดอาวุธ สหรัฐอเมริกา และสหภาพโซเวียต(สมยั นนั ) ควรใหเ้ กียรติต่อพนั ธะสัญญาเพ่ือบรรลุซ่ึงการลดระดบั อาวธุ ยทุ ธภณั ฑแ์ ละ ดาเนินการเจรจาโดยมีเป้ าหมายเพื่อการลดอาวุธเพิมข้ึนต่อไป ทงั น้ีการดาเนินนโยบายของประเทศอย่าง สาธารณรัฐประชาชนจีนและอาร์เจนตินา เพ่อื ลดงบประมาณดา้ นการทหารถือเป็ นตวั อยา่ งความกา้ วหนา้ ใน เรื่องดงั กล่าว 
  ทรัพยากรและขีดความสามารถทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ซ่ึงปัจจุบนั เป็นไปเพื่อการ แข่งขนั ทางอาวุธ ก็ควรมีการปรับทิศทางของการแก้ไขปัญหาโลกที่เป็ นภยั คุกคามต่อความอยู่รอดและ สวสั ดิภาพของมนุษย์ ได้แก่การพฒั นาทรัพยากรพลงั งานทางเลือก และระบบการขนส่งและเทคโนโลยี ใหม่ๆ เพ่ือบรรเทาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศซ่ึงกาลงั จะเกิดข้ึนในไม่ชา้ ทาการ สารวจเรื่องการลดลงของชนั โอโซนการป้องกนั การลดจานวนของสปีซียท์ างชีววทิ ยาและมาตรการตอบโต้ ต่อภยั คุกคามชีวมณฑล (พ้ืนท่ีและชนั บรรยากาศของโลกที่มีสิงมีชีวติ อาศยั อย)ู่ 


เศรษฐกจิ โลก 

ดว้ ยเหตุผลทางศีลธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ มนุษยชาติจึงตอ้ งพยายามกาหนดโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ มีความเสมอภาค เพ่ือแก้ไขปัญหาความยากจนซ่ึงส่งผลต่อมนุษย์ทัวโลกเป็ นจานวนมาก แต่การ เปลี่ยนแปลงจะเกิดข้ึนไดต้ ่อเม่ือมีการตดั สินใจและการเสวนาซ่ึงตงั อยบู่ นผลประโยชน์ส่วนตวั ท่ีรู้แจง้ ใน ภาคอุตสาหกรรมและนโยบายสนบั สนุนร่วมกนั ของประเทศกาลงั พฒั นาทงั หลาย 
  วิกฤติหน้ีที่ส่งผลกระทบไปทวันั ตอ้ งไดร้ ับการแกไ้ ขดว้ ยสานึกของความเร่งด่วน เราไม่สมารถ จดั การกบั ภาระหน้ีโดยแลกกบั การทาให้เศรษฐกิจของประเทศตอ้ งหยุดชะงกั และไม่มีรัฐบาลใดสามารถ เรียกร้องการลิดรอนประชาชนของตนท่ีขดั แยง้ กันกับศกั ด์ิศรีของมนุษย์ทุกฝ่ายท่ีเก่ียวข้องตอ้ งมีส่วน ช่วยเหลือและใหเ้กียรติต่อหลกั การแบ่งเบาภาระร่วมกนั อยา่ งเป็นรูปธรรม 
  โครงการความช่วยเหลือแบบเร่งด่วนคือส่วนสาคญั ท่ีขาดไม่ไดข้ อง การสร้างความมนัใจในเรื่อง ความอยู่รอดของคนและชุมชนทังหลายที่กาลังประสบภาวะยากจนอย่างหนัก ด้วยเหตุน้ีจึงมีความ จาเป็นตอ้ งส่งเสริมสานึกของความเป็นนาหน่ึงใจเดียวเพ่อื ความอยรู่ อดของโลก 


การพฒันา-ประชากร-ส่ิงแวดล้อม 

มีการเนน้ ยาวา่ ค่านิยมทางศีลธรรม เพ่ือครอบครัวในอนาคตและการยอมรับในความรับผิดชอบร่วมกนั ของ บุรุษและสตรีคือสิงจาเป็นต่อการจดั การกบั ประเด็นเหล่าน้ี การเติบโตของประชากรอยา่ งรวดเร็วในประเทศ กาลงั พฒั นาหลายแห่งเป็นผลเสียต่อความก้าวหน้าของการพฒั นา และเร่งให้เกิดวงจรแห่งความชัวร้าย ระหว่างประเทศด้อยพฒั นาการเติบโตของประชากรและการทาลายระบบการสนับสนุนชีวิตมนุษย์ นโยบายสาธารณะที่มีความรับผิดชอบ ตอ้ งอาศยั การวางแผนเรื่องแนวโนม้ ดา้ นประชากร สิงแวดลอ้ ม และ เศรษฐกิจอยา่ งเป็ นระบบ โดยใหค้ วามสนใจต่อปฏิสัมพนั ธ์ของมนั เป็ นพิเศษ 
  การยอมรับในแนวทางที่แตกต่างกนั ของศาสนาต่างๆต่อนโยบายและวิธีการวางแผนครอบครัว ทวา่ ก็ยอมรับวา่ แนวโนม้ ในปัจจุบนั ทาใหก้ ารดาเนินรอยตามการวางแผนครอบครัวที่มีประสิทธิผลเป็นสิงที่ เล่ียงไม่ได้ประสบการณ์เชิงบวกท่ีประเทศและศาสนาทงัหลายควรมีร่วมกนั และการวิจยัทางวิทยาศาสตร์ เก่ียวกบั การวางแผนครอบครัวก็เป็นสิงที่ควรเร่งรัดเช่นกนั 


รายชื่อผ้เูข้าร่วมการประชุมปรึกษาหารือร่วมกบั ผู้นาทางจิตวญิ ญาณ 


สมาชิกสภาปฏิสัมพนัธ์ 

ทาเคโอะ ฟูกุดะ
ประธานการ 
  อดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ประธานกิตติมศกั ด์ิสภาปฏิสัมพนั ธ์ และ ประชุมปรึกษาหารือที่กรุงโรม 

เฮลมุทชมิดท์ 
  อดีตนายกรัฐมนตรีสหพนัธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประธานสภาปฏิสัมพนัธ์ 

จีโนฟอค 
  อดีตประธานสภาคณะรัฐมนตรีของสาธารณรัฐประชาชนฮงัการี 

มลั คอลม์ เฟรเซอร์ 
  อดีตนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย 

โอลูเซกุน โอบาซานโจ 
  อดีตประธานาธิบดีไนจีเรีย 

มิซาเอล ปาสตรานา บอร์เรโร 
  อดีตประธานาธิบดีโคลอมเบีย 

มาเรียเดอลอร์เดสปินตาซิลโก 
  อดีตนายกรัฐมนตรีโปรตุเกส 

แบรดฟอร์ด มอร์ส 
ปฏิสัมพนัธ์ 
  อดีตผู้อานวยการบริหารยูเอ็นดีพี สมาชิกกิตติมศักด์ิสภา 


ผ้นู าทางจิตวญิ ญาณ 

ดร.เอที อริยะรัตเน 
  ศาสนาพุทธ ผกู้ ่อต้งั และประธานขบวนการสรรโวทยั ศรีลงั กา 

ศ. เคเอช ฮาซนั บาสรี 
อินโดนีเซีย 
  มุสลิม ประธานใหญ่ มาเจลิส อูลามา (สภานักวิชาการอิสลาม) 

จอห์นบีคอบบ์ผนู้ ่าเคารพ 
สหรัฐอเมริกา 
  เมโธดิสต์ ศาสตราจารย์รับเชิญ วิทยาลัยดิวินิต้ีแห่งฮาร์วาร์ด 

ฟรานซ์คาร์ดินลั โคนิก 
เลขาธิการ 
  โรมนั คาธอลิก อคั รมุขนายกกิตติคุณแห่งเวียนนา อดีตประธานสานัก สมณะเพื่อผไู้ ม่เชื่อพระเจา้ ออสเตรีย 

คุณลี ชู-เป่ า 
  โปรเตสแตนต์ รองประธาน คณะกรรมการการพ่ึงตนเองสามด้าน 

แห่งชาติและ 
  เลขาธิการใหญ่, คณะกรรมการสมาคมคริสเตียนของคนหนุ่ม 

แห่งชาติจีน 
  สาธารณรัฐประชาชนจีน 

ดร. คาราน ซิงห์ 
  ฮินดู ประธานวริ ัต ฮินดู สะมาจ อินเดีย 

ศาสตราจารย์ เอลิโอ โทฟฟ์ 
  ยิว หัวหน้าแรบไบแห่งกรุงโรม และสมาชิกสภาแรบไบอิตาลี 

สมาชิกคณะกรรมการ 
  บริหารของท่ีประชุมแรบไบแห่งยโุ รป 

คุณเลสเตอร์บราวน์ 
  ผเู้ชี่ยวชาญผแู้ทนชุมชนวทิยาศาสตร์ประธานสถาบนัจบัตาโลก 

สภาปฏิสัมพนั ธ์ ก่อต้งั เมื่อปี 1983 ในฐานะองค์กรอิสระระหว่างประเทศ เพ่ือการระดมประสบการณ์ พลงั งานและความสัมพนั ธ์ระหวา่ งประเทศของกลุ่มรัฐบุรุษ เพ่ือการกระตุน้ ปฏิบตั ิการแกไ้ ขประเด็นปัญหา ท่ีมีความสาคญั ต่ออนาคตของมนุษยชาติ:
สันติภาพและความมนั่ คง
การฟ้ื นฟูเศรษฐกิจโลก
ความร่วมมือระหวา่ งประเทศดา้ นการพฒั นา ประชากร และสิ่งแวดลอ้ ม 



การแสวงหามาตรฐานทางจริยธรรมสากล (1996) 
 

รายงานเกี่ยวกบั ข้อสรุปและคาแนะนา 
โดยกล่มุ ผ้เูชี่ยวชาญระดับโลกว่าด้วย 
 
การแสวงหามาตรฐานทางจริยธรรมสากล 
 
ประธาน เฮลมุท ชมิดท์
วนั ที่ 22-24 มีนาคม ปี 1996
กรุงเวยี นนาออสเตรีย 

บทนา 
เม่ืออารยธรรมมนุษยก์ า้ วเขา้ สู่ศตวรรษท่ี 21 โลกก็กาลงั เขา้ สู่ช่วงของการเปลี่ยนผา่ นซ่ึงอย่างน้อยก็มีความ ลึกซ้ึงและแพร่ขยายไปไกลอยา่ งเช่นที่เคยเกิดข้ึนสมยั การปฏิวตั ิอุตสาหกรรม โลกาภิวตั น์ของเศรษฐกิจโลก มาพร้อมกบั โลกาภิวตั น์ของปัญหาโลก ไดแ้ ก่ ประชากร สิงแวดลอ้ ม การพฒั นา การว่างงาน ความมนัคง และความเสื่อมโทรมทางศีลธรรมและวฒั นธรรม มนุษยชาติกาลงั ร่าร้องหาทงั ความยตุ ิธรรมและความหมาย 

การเปล่ียนแปลงทางกายภาพในทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ประยุกตไ์ ปไกลเกินกวา่ ความสามารถใน การตอบสนองของสถาบนั ของเรา รัฐยงั คงเป็นเครื่องมือหลกั ในการแปลงเจตนารมณ์ร่วมกันให้เป็น มาตรการท่ีเป็นรูปธรรมแต่กรอบความคิดเร่ืองอานาจอธิปไตยของรัฐกาลงั อยภู่ ายใตก้ ารปิดลอ้ มในทุกที่ดงั วลีซ่ึงรู้จกั กนั ดีคือ รัฐชาตินนั เล็กเกินกวา่ ที่จะรับมือกบั ปัญหาใหญ่ แต่ก็ใหญ่เกินกว่าจะรับมือแต่ปัญหาใน ทอ้ งถิน บรรษทั ขา้ มชาติต่างก็มีโอกาสอยา่ งท่ีไม่เคยมีมาก่อนเมื่อการคา้ และการลงทุนของโลกขยายตวั แต่ ผนู้ าองคก์ รบริษทั ในปัจจุบนั กาลงั เผชิญกบั คาถามท่ีสร้างความกงั วลใจเก่ียวกบั ความรับผิดชอบของบริษทั ในเรื่องที่ไม่คุน้ เคย เช่น สิทธิมนุษยชน สถาบนั ศาสนายงั คงครอบครองความภกั ดีของผคู้ นหลายลา้ นแต่การ ทาใหเ้ป็นฆราวาสและความตอ้ งการของลทั ธิบริโภคนิยมกลบั ไดร้ ับการสนบั สนุนมากกวา่ นอกจากน้ีโลก ยงั ไดร้ ับผลกระทบจากลทั ธิสุดโต่งทางศาสนาและการใชค้ วามรุนแรงที่ถูกพร่าสอนและปฏิบตั ิในนามของ ศาสนา การใชค้ าวา่ ลทั ธิยึดมนัในหลกั การพ้ืนฐานในส่วนน้ีถือวา่ เป็ นการใชใ้ นทางท่ีผดิ เพราะคนท่ีนบั ถือศาสนาในทุกที่เชื่อในหลกั การพ้ืนฐานของศาสนาตนอยแู่ ลว้ แต่คนท่ีนบั ถือศาสนาส่วนใหญ่ปฏิเสธการ ใ ช ค้ ว า ม ร ุ น แ ร ง แ ล ะ เ ช ่ ื อ ว า่ ก า ล งั ไ ม ่ ค ว ร ถ ู ก ใ ช เ ้ พ ่ ื อ ก า ร ส ่ ง เ ส ร ิ ม เ ห ต ุ ผ ล แ ห ่ ง ค ว า ม ต อ้ ง ก า ร ส ่ ว น ต วั ด งั น นั โ ล ก จ ึ ง อยใู่ นภาวะผนั ผวน แลว้ เราจะหนั ไปทางไหนดี

คาแนะนาทเี่ ป็ นรูปธรรม 
ในการส่งเสริมการเผยแพร่บรรทดั ฐานทางจริยธรรมนนั สภาปฏิสัมพนั ธ์ตระหนกั ดีวา่ รัฐอธิปไตยยงั คงเป็น พาหะของการเปล่ียนแปลงท่ีสาคญั ดว้ ยเหตุท่ีรัฐอธิปไตยคือเป้ าหมายสาคญั เราจึงควรให้ความสนใจต่อ บทบาทของส่ืออิเล็กทรอนิกส์และองคก์ ารระหวา่ งประเทศซ่ึงกาลงั มีอานาจในโลกมากข้ึน 
เพื่อใหแ้ น่ใจวา่ การส่งเสริมจริยธรรมสากลจะประสบความสาเร็จในระดบั ที่มีนยั สาคญั จึงมีความจาเป็นและ อาจเป็นสิงสาคญั ที่ศาสนาของโลกซ่ึงมีระบบความเชื่อและเขตอิทธิพลแยกจากกนั ควรจะร่วมมือกนั อยา่ ง ใกล้ชิดเพื่อการโน้มน้าวรัฐอธิปไตยและสถาบนั ท่ีเก่ียวขอ้ งทงั หลายให้ช่วยกนั ทาให้เป้าหมายน้ีเป็นจริง ข้ึนมาซ่ึงจะช่วยในการทาหน้าท่ีสาคญั สองประการได้มากกล่าวคือในแง่หน่ึงความพยายามร่วมกนั จะ แ ส ด ง ใ ห เ ้ ห ็ น ว า่ ศ า ส น า ต ่ า ง ๆ ส า ม า ร ถ ม า ห า ร ื อ ก นั ด ว้ ย ใ จ ท ่ ี เ ป ิ ด ก ว า้ ง เ พ ื ่ อ บ ร ร ล ุ ข อ้ ต ก ล ง เ ก ่ ี ย ว ก บั ค ว า ม เ ร ่ ง ด ่ ว น ของปัญหาท่ีมนุษยชาติกาลงั เผชิญอยู่ในปัจจุบนั และเกี่ยวกบั บทบาทของมาตรฐานและบรรทดั ฐานทาง จริยธรรมในการต่อสู้กบั วิกฤติของโลกส่วนอีกแง่หน่ึงความจริงที่ว่าทุกศาสนาในโลกน้ีสามารถทางาน ร่วมกนั เพ่อื ส่งเสริมมาตรฐานทางจริยธรรม จะช่วยใหภ้ ารกิจของการเผยแพร่บรรทดั ฐานดงั กล่าวไปทวัโลก ง่ายข้ึน 

การประชุมของผูน้ าศาสนาของโลกเอ้ืออานวยต่อการสร้างจริยธรรมสากล การประชุมดงั กล่าวสามารถ กระตุน้ รัฐอธิปไตยและผูน้ าของรัฐ สถาบนั การศึกษา สื่อมวลชน (ทีวี วิดีโอ ฯลฯ) รวมทงั สถาบนั ทาง ศาสนาของรัฐ ใหย้ อมรับและส่งเสริมใหเ้ กิดฉนั ทามติเรื่องจริยธรรมสากลดว้ ยทุกวิถีทางที่มี ควรเนน้ ยาดว้ ย วา่ การประชุมเช่นน้ี ควรมีผแู้ ทนของศาสนา โดยเฉพาะอยา่ งยิงผหู้ ญิงเขา้ ร่วมดว้ ย องคก์ รทางศาสนาที่มีอยู่ ในปัจจุบนั ก็สามารถอานวยความสะดวกต่อการประชุมแบบน้ีไดเ้ช่นกนั 

คาแนะนาโดยกลุ่มดงั กล่าว ควรมุ่งไปท่ีคนซ่ึงอยู่ในตาแหน่งที่มีอานาจในการตดั สินใจของรัฐบาล วง การศึกษาส่ือมวลชนองคก์ รไม่แสวงหากาไรไม่ใช่ของรัฐบาลและองคก์ รทางศาสนาของรัฐอธิปไตยเป็น หลกั เพราะคนเหล่าน้ีมีส่วนในการเผยแพร่และการพร่าสอนมาตรฐานและบรรทดั ฐานทางจริยธรรมสากล ที่ปรากฏอยใู่ นคาแนะนาและขอ้ มูลพ้ืนฐานท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ศาสนาโลก 

ถา้ ผนู้ าศาสนารับคาเชิญของสภาปฏิสัมพนั ธ์เพื่อการเขา้ ร่วมประชุม โลกคงจะยินดีกบั การอภิปรายเก่ียวกบั แผนปฏิบตั ิการเพ่ือการส่งเสริมการเผยแพร่จริยธรรมสากลที่เป็นรูปธรรมแผนการดงั กล่าวอาจไม่ได้มี ลกัษณะเฉพาะท่ีพเิศษอะไรโดยจะมีองคป์ ระกอบต่อไปน้ี: 

  • เป็นการรวบรวมหลกั จริยธรรมร่วมกนั เพื่อจดั ทาให้อยู่ในรูปของอนุสาร(หนังสือเล่มเล็ก) และ เผยแพร่ไปทวัโลก
  • นอกจากจะเป็นการรวมหลกั จริยธรรมทวัไปแลว้ ก็ควรส่งเสริมจรรยาบรรณเพื่อผปู้ ระกอบวิชาชีพ ธุรกิจ พรรคการเมือง สื่อมวลชนและผลประโยชน์สาคญั อื่นๆ หลกั จรรยาบรรณดงั กล่าวจะมีส่วนช่วยเหลือ ในการควบคุมตวัเองของคน
  • คาแนะนาต่อผูน้ าของโลกว่า ในปี 1998 ซ่ึงเป็นปีครบรอบ 50 ปีของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิ มนุษยชน สหประชาชาติควรจดั การประชุมเพอื่ พจิ ารณารับร่างปฏิญญาวา่ ดว้ ยพนั ธะกรณีของมนุษยชน เพื่อ เสริมการทางานในส่วนที่เกี่ยวกบั สิทธิมนุษยชนก่อนหนา้
  • การพฒันาหลกัสูตรการศึกษาสากลซ่ึงจะประกอบดว้ยผลงานที่ดีที่สุดของศาสนาและปรัชญาสาคญั ของโลก ควรเผยแพร่หลกั สูตรดงั กล่าวแก่สถาบนั การศึกษาทุกแห่ง และสามารถเขา้ ถึงไดด้ ว้ ยเทคโนโลยี การสื่อสารทนัสมยัในปัจจุบนัเช่นอินเทอร์เน็ตทีวเีพื่อการศึกษาวดิีโอวทิยุฯลฯ
  • เพ่ือเป็นการขยายความเขา้ ใจและเพ่ือการรวมทรัพยากรทางปัญญาที่จาเป็นต่อการพฒั นาหลกั สูตร ดงั กล่าวสหประชาชาติควรพจิ ารณาจดั ตงั สถาบนั ระหวา่ งศาสนาของโลกใหเ้ป็นส่วนหน่ึงของระบบมหาวิ ยาลยัยเูอน็ ซ่ึงจะเป็นการดึงนกัวิชาการนกัศึกษาและผนู้าศาสนาของโลกใหม้ารวมตวักนัท่ีนี่ 


ความจาเป็ นของมาตรฐานทางจริยธรรมสากล 
ดงั ที่อริสโตเติลสอนไวว้ า่ มนุษยค์ ือสัตวส์ ังคม เพราะเราตอ้ งอยใู่ นสังคม เพราะเราตอ้ งอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่นดว้ ย ความกลมเกลียว มนุษยจ์ ึงจาเป็นตอ้ งมีกฎเกณฑแ์ ละขอ้ จากดั จริยธรรมคือมาตรฐานขนั ต่าสุดท่ีทาให้การใช้ ชีวิตร่วมกันมีความเป็นไปได้ หากปราศจากจริยธรรมและการควบคุมตัวเองซ่ึงเป็นผลลัพธ์ของมัน มนุษยชาติก็คงกลับคืนสู่สภาพคนป่ าเช่นเดิม ในโลกที่เต็มไปด้วยการเปล่ียนแปลงที่ไม่เคยมีมาก่อน มนุษยชาติมีความตอ้งการจริยธรรมเป็นหลกัในการยนืหยดั 

ศาสนาของโลกไดก้ ่อเกิดประเพณีแห่งภมู ิปัญญาที่ยงิใหญ่ที่สุดอยา่ งหน่ึง คลงั แห่งภูมิปัญญาน้ีซ่ึงมีจุดกาเนิด มาแต่โบราณ ไม่เคยเป็นที่ตอ้ งการมากข้ึน จริยธรรมควรมาก่อนการเมืองและกฎหมาย เพราะการกระทาทาง การเมืองเกี่ยวกบั ค่านิยมและการเลือกดงั นนั จริยธรรมจึงตอ้ งแนะนาและจุดประกายแก่ความเป็นผนู้ าทาง การเมืองการศึกษาเป็นการเปิดศกั ยภาพของมนุษย์ต่อการทาความเข้าใจและขนั ติธรรมถ้าปราศจาก จริยธรรมและการสังสอนว่าสิงใดถูกหรือผิด โรงเรียนของเราก็จะเป็นเพียงแต่โรงงานผลิตแรงงานซ่ึงจะ ลา้ สมยั ในไม่ชา้ การสื่อสารมวลชนเป็นหน่ึงในสื่อกลางที่มีประสิทธิภาพที่สุดอยา่ งหน่ึงในการมีอิทธิพลต่อ ความคิดและพฤติกรรมของมนุษย์แต่การใชค้ วามรุนแรงความเส่ือมทรามและเร่ืองปลีกยอ่ ยที่ปรากฏในสื่อ ทาใหจ้ ิตวญิ ญาณของมนุษยต์ อ้ งแปดเป้ือนมากกวา่ การยกระดบั 

ในการตอบโตต้ ่อโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงน้ี จาเป็ นตอ้ งมีการปรับทิศทางสถาบนั ของเราให้หันเข้าหา บรรทดั ฐานทางจริยธรรม เราสามารถหาแหล่งของการปรับทิศทางดงั กล่าวในศาสนาของโลกและประเพณี ทางจริยธรรมได้เพราะมนั มีทรัพยากรทางจิตวญิ ญาณเพ่ือใชเ้ป็นหลกั จริยธรรมนาทางสู่การแกป้ ัญหาความ ตึงเครียดทางชาติพนั ธุ์ ชาติ สงั คม เศรษฐกิจและทางศาสนาของเรา ศาสนาของโลกต่างก็มีหลกั การแตกต่าง กนั ไป แต่ทงั หมดลว้ นยึดถือมาตรฐานทางจริยธรรมร่วมกนั สิงที่ยึดเหนี่ยวศรัทธาของโลกไวด้ ว้ ยกนั เป็น อะไรยิงใหญ่สิงที่แบ่งแยกพวกเขา ทงั หมดต่างก็ยึดมนัต่อคุณความดีของความอ่อนนอ้ มถ่อมตน ความเห็น อกเห็นใจและความยุติธรรม แต่ละศาสนาต่างก็ประเมินความสับสนของชีวิตดว้ ยวิถีทางของตนจนบางครัง ไม่สนใจรูปแบบท่ีสามารถให้ความหมายแก่เรื่องทงั หมด การแกป้ ัญหาของโลกเรานนั เราตอ้ งเริมตน้ ดว้ ย การมีพ้นื ฐานทางจริยธรรมร่วมกนั 

แก่นของจริยธรรมสากล 
ปัจจุบนัมนุษยชาติมีทรัพยากรทางเศรษฐกิจวฒั นธรรมและจิตวญิ ญาณเพียงพอต่อการสร้างระเบียบโลกที่ดี ข้ึนแต่ความตึงเครียดทางชาติพนั ธุ์ชาติสงั คมเศรษฐกิจและศาสนาทงั ใหม่และเก่าเป็นภยั ต่อการสร้างโลก ท่ีดีกวา่ เดิมดว้ ยสันติวธิ ี ท่ามกลางสถานการณ์โลกท่ีแสนวุน่ วายเช่นน้ี มนุษยชาติจาเป็นตอ้ งมีวสิ ัยทศั น์ของ การท่ีคนอยู่ร่วมกนั โดยสันติ ภาพของชาติพนั ธุ์และการรวมกลุ่มทางศาสนา และภาพของศาสนาต่างๆ ร่วมกนั รับผดิ ชอบต่อการดูแลโลกเป็นวสิ ัยทศั น์ท่ีตงั อยบู่ นความหวงั เป้าหมายอุดมการณ์มาตรฐานดงั นนั เราจึงรู้สึกซาบซ้ึงที่สภาแห่งศาสนาโลก ซ่ึงก่อตงั ที่เมืองชิคาโก ปี 1993 ไดป้ ระกาศปฏิญญาเพื่อจริยธรรม สากลที่เราสนบัสนุนในหลกัการ 

มีความก้าวหน้าสาคญั ที่ช่วยสร้างเสริมความแข็งแกร่งแก่สิทธิมนุษยชนในกฎหมายและความยุติธรรม ระหว่างประเทศ เริมตน้ จากการท่ีสหประชาชาติรับร่างปฏิญญาสากลว่าดว้ ยสิทธิมนุษยชน ซ่ึงได้รับการ สนับสนุนด้วยอนุสัญญาสิทธิมนุษยชนว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และสิทธิทางสังคม วฒั นธรรม และเศรษฐกิจ ท่ีมีการขยายความเพิมเติมโดยปฏิญญาว่าดว้ ยสิทธิมนุษยชนและแผนปฏิบตั ิการ เวยี นนาสิงที่ยเูอน็ อา้ งไวเ้รื่องระดบั ของสิทธินนั ปฏิญญาชิคาโกไดย้ นื ยนั และทาใหล้ ึกซ้ึงยิงข้ึนเม่ือพิจารณา จากมุมมองของพนั ธะกรณี กล่าวคือเป็นการบรรลุซ่ึงศกั ด์ิศรีแห่งความเป็นมนุษย์มีเสรีภาพและความเสมอ ภาคในหลกั การของมนุษยท์ ุกคน และสร้างความเป็นนาหน่ึงใจเดียวและการพ่ึงพากนั ของมนุษยท์ ุกคน ทงั ในระดบั บุคคลและชุมชนอย่างเต็มที่ อีกทงั ยงั เป็ นการเนน้ ยากบั เราวา่ ระเบียบโลกที่ดีข้ึน ไม่สามารถสร้าง ข้ึนหรือบงั คบั ใชด้ ว้ ยกฎหมาย คาสังและขอ้ ตกลงเท่านนั เพราะการกระทาท่ีเป็นผลดีต่อสิทธิและเสรีภาพ ตอ้ งอาศยั จิตสานึกเร่ืองความรับผิดชอบและหน้าท่ี ดงั นนั จึงตอ้ งจดั การกบั ความคิดและจิตใจของชายและ หญิงทงั หลาย เป็นการตอกยาวา่ สิทธิท่ีปราศจากพนั ธะกรณีนนั อยไู่ ดไ้ ม่นาน และไม่สามารถมีระเบียบโลกท่ี ดีกวา่ เดิมไดถ้ า้ ปราศจากจริยธรรมสากล 

จริยธรรมสากลน้ีไม่ใช่สิงที่มาทดแทนหนงั สือโทราห์ หลกั คาสอนของพระเยซู คมั ภีร์กุรอาน คมั ภีร์ภควตั คี ตาคาสอนของพระพุทธเจา้ หรือคาสอนของขงจื๊อและอื่นๆแต่จริยธรรมสากลเป็นค่านิยมมาตรฐานและ เจตคติพ้ืนฐานท่ีจาเป็นขนั ต่าสุดแลว้ หรือนยั หน่ึง เป็นฉันทามติพ้ืนฐานขนั ต่าสุดเกี่ยวกบั ค่านิยมท่ีผูกมดั มาตรฐานท่ีเปลี่ยนแปลงไม่ได้ และเจตคติทางศีลธรรมซ่ึงสามารถยืนยนั ได้โดยทุกศาสนา แม้จะมี หลกั เกณฑแ์ ตกต่างกนั ก็ตาม อีกทงั ยงั เป็นสิงที่ผไู้ ม่นบั ถือพระเจา้ ใหก้ ารสนบั สนุนได้ 

เพื่อเป็นการยนื ยนั ตามปฏิญญาชิคาโกซ่ึงเป็นครังแรกในประวตั ิศาสตร์ศาสนาที่มีการสร้างฉนั ทามติพ้ืนฐาน ขนั ต่าสุด เราจึงขอแนะนาหลกั การสาคญั สองประการซ่ึงมีความสาคญั ต่อจริยธรรมของบุคคล สังคม และ การเมืองดงั น้ี 


1. มนุษยท์ ุกคนตอ้ งไดร้ ับการปฏิบตั ิในฐานะที่เป็นมนุษย์

2. จงปฏิบตั ิต่อผูอ้ ่ืนเหมือนที่ท่านต้องการให้ผูอ้ ื่นปฏิบตั ิต่อท่าน กฎขอ้ น้ีคือส่วนหน่ึงของประเพณีทาง ศาสนาท่ียงิใหญ่ทงั หมด 


พ้ืนฐานของหลกั การทงั สองขอ้ ประกอบดว้ ยพนั ธะกรณีที่เปลี่ยนแปลงไม่ไดส้ ่ีประการ ซ่ึงทุกศาสนาต่างเห็น พอ้ งและเป็นสิงที่เราใหก้ ารสนบั สนุนอยา่ งเตม็ ท่ีดงั น้ี 

พนั ธะกรณีต่อวฒั นธรรมของการไม่ใชค้ วามรุนแรงและการเคารพต่อชีวติ 

พนั ธะกรณีต่อวฒั นธรรมของความเป็นนาหน่ึงใจเดียว และระเบียบทางเศรษฐกิจท่ีเป็นธรรม 

พนั ธะกรณีต่อวฒั นธรรมของการมีขนั ติธรรมและการใชช้ ีวติ ดว้ ยความซื่อสัตย์ 

พนั ธะกรณีต่อวฒั นธรรมของสิทธิท่ีทดั เทียมกนั และการเป็นหุน้ ส่วนระหวา่ งชายและหญิง 

เม่ือยอมรับแนวทางในการกาหนดนโยบายและการวางแผนครอบครัวที่แตกต่างกนั ของศาสนาต่างๆแลว้ จึง เห็นพอ้ งกนั ว่าแนวโน้มของประชากรในปัจจุบนั ทาให้การวางแผนครอบครัวเป็นสิงจาเป็นจึงควรมีการ แลกเปลี่ยนประสบการณ์เชิงบวกของประเทศและศาสนาทงั หลาย และควรเร่งรัดการวิจยั ทางวิทยาศาสตร์ เพือ่ การวางแผนครอบครัวต่อไป 

ก า ร ศ ึ ก ษ า ไ ม ่ ว า่ จ ะ เ ป ็ น ร ะ ด บั ใ ด ก ็ ต า ม ม ี บ ท บ า ท ส า ค ญั ต ่ อ ก า ร ป ล ู ก ฝ ั ง ค ่ า น ิ ย ม ท า ง จ ร ิ ย ธ ร ร ม ส า ก ล ใ น จ ิ ต ใ จ ข อ ง คนหนุ่มสาวควรมีการปรับร้ือโครงสร้างหลกั สูตรและประมวลการสอนเพ่อื ใส่ค่านิยมทางจริยธรรมร่วมกนั และเพ่ือส่งเสริมความเขา้ ใจในศาสนาอ่ืนตงั แต่ชนั ประถมศึกษาจนถึงมหาวทิ ยาลยั หลกั สูตรการศึกษาควร สังสอนค่านิยมอยา่ ง ขนั ติธรรมเชิงบวกและควรผลิตวสั ดุหลกั สูตร(สื่อการเรียนการสอน)ให้สอดคลอ้ ง กนั เร่ืองการพฒั นาความทะเยอทะยานของคนหนุ่มสาวก็เป็นสิงท่ีตอ้ งเนน้ ยาเช่นกนั องคก์ ารยูเนสโก และ มหาวิทยาลยั สหประชาชาติ ตลอดจนองค์กรระหว่างประเทศทงั หลายควรทางานร่วมกันเพ่ือบรรลุซ่ึง วตั ถุประสงคด์ งั กล่าว สื่ออิเล็กทรอนิกส์ก็ควรเขา้ ร่วมดว้ ย 

เ ร า ไ ด พ้ ดู ถ ึ ง ก ร ะ บ ว น ก า ร แ บ บ ม ี ส ่ ว น ร ่ ว ม ท ี ่ ก า ล งั ด า เ น ิ น อ ย ่ ู แ ล ะ ร ิ เ ร ิ ม โ ด ย ส ภ า โ ล ก แ ล ะ อ ง ค ก์ ร เ พ ื ่ อ ส ิ ง แ ว ด ล อ้ ม กรีน ครอส อินเทอร์เนชนัแนล (Green Cross International) เพื่อจดั ทากฎบตั รโลก เรารู้สึกยินดีต่อการริเริมน้ี เพราะเป็ นตัวอย่างของความพยายามที่เกี่ยวข้องกับศาสนาของโลกและกลุ่มอื่นๆ ในการนิยามการ เปลี่ยนแปลงพ้ืนฐานในค่านิยม พฤติกรรมและเจตคติของรัฐบาล ภาคเอกชน และประชาสังคม ซ่ึงเป็ น สิงจาเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงเพ่ือการพฒั นาอยา่ งยงัยนื 

ดว้ ยเหตุที่การเคารพต่อชีวิตเป็นพนั ธะสัญญาทางจริยธรรมท่ีสาคญั การต่อสู้กบั ผทู้ ่ีก่อสงครามและการใช้ ความรุนแรงจึงต้องเป็นสิงสาคญั อันดับสูงสุดของโลก ในส่วนน้ีมีประเด็นท่ีควรให้ความสนใจทนั ที โดยเฉพาะอยสู่ องประเด็นคือ การคา้ อาวุธขนาดเล็ก อาวุธก่ึงอตั โนมตั ิ ซ่ึงจะตอ้ งมีการจากดั และตอ้ งยุติการ แพร่กระจายของอาวุธดงั กล่าว กบั ระเบิดทาลายชีวิตผบู้ ริสุทธ์ิเป็นจานวนมากเช่นเดียวกบั อาวุธขนาดเล็ก ปัญหาน้ีถือวา่ มีความรุนแรงมากในกมั พชู าและอดีตยโู กสลาเวยี ในแอฟริกาและอฟั กานิสถาน การกาจดั และ ก า ร ร ้ ื อ ถ อ น ก บั ร ะ เ บ ิ ด อ ย า่ ง เ ป ็ น ร ะ บ บ ค ื อ ค ว า ม จ า เ ป ็ น เ ร ่ ง ด ่ ว น 


รายชื่อผ้เูข้าร่วมประชุม 


สมาชิกสภาปฏิสัมพนัธ์ 

เฮลมุท ชมิดท์ ประธาน 

แอนเดรอสั ฟาน แอกต์ 

ปิแอร์เอลเลียตทรูโด

มิเกล เดอ ลา แมดริด อูตาร์โด 


ผเู้ชี่ยวชาญ 

มุกแรม อลั -กมั ดี, คณบดี สถาบนั คิง ฟาฮดั อะคาเดมี, ลอนดอน 

ศาสตราจารยม์ิชิโอะอะรากิ,มหาวทิยาลยัซึกุบะ 

ชนั ติ อะราม, ประธาน ชนั ติ อชั ราม โคอิมบาตอร์, อินเดีย

โทมสั แอกซ์เวริ์ทธี,ผอู้านวยบริหารมูลนิธิซีอาร์บี

อบั ดุลิจาวดั ฟาลาตูรี, ผอู้ านวยการ สถาบนั วทิ ยาศาสตร์อิสลาม และศาสตราจารยม์ หาวทิ ยาลยั โคโลญ 

อนนัดาเกรโร,อดีตผพู้ิพากษาศาลอุทธรณ์,ศรีลงักา

ศาสตราจารยค์ ิม ยอง-ดงั , มหาวทิ ยาลยั แห่งชาติโซล

พระคาร์ดินลั ดร.ฟรานซ์โคนิก,เวยีนนาออสเตรีย

ศาสตราจายฮ์นัส์คุง,มหาวทิยาลยัทูบิงเงน

ศาสตราจารยป์ีเตอร์แลนเดสมานน์,มหาวทิยาลยัเวยีนนา

หลิวเส่ียว-เฟิง,ผอู้ านวยการสถาบนั จีน-คริสเตียนศึกษา,ฮ่องกง

แอลเอม็ สิงห์ว,ีขา้หลวงใหญ่กิจการอินเดีย,ลอนดอน

มาจอรี ซูชอคคี, คณบดีคณะเทววทิ ยาแห่งแคลร์มอนต,์ สหรัฐอเมริกา

ชิซูยามากจู ิ,อดีตสมาชิกรัฐสภา,ญี่ปุ่น(ผสู้ ังเกตการณ์)


สื่อมวลชน

ฟลอราลูอิส,อินเทอร์เนชนัแนลเฮอรัลด์ทริบูน 



ปฏิญญาสากลว่าด้วยความรับผดิ ชอบของมนุษยชน (1997) 
 

ร่างปฏิญญาสากลว่าด้วยความรับผดิ ชอบของมนุษยชน(1997) 
 
นาเสนอโดยสภาปฏิสัมพนัธ์ 
วนั ที่ 1 กนั ยายน ปี 1997 

 
เกริ่นนา 

ถึงเวลาต้องคุยกนัเร่ืองความรับผิดชอบของมนษุยชนแล้ว 

การโลกาภิวตั น์เศรษฐกิจโลกมาพร้อมกบั ปัญหาของโลกและปัญหาของโลกก็ตอ้ งใชว้ ธิ ีแกไ้ ขท่ีเป็นสากล บนพ้ืนฐานของความคิดค่านิยมและบรรทดั ฐานซ่ึงเป็นท่ีเคารพของวฒั นธรรมและสังคมทุกแห่งการ ยอมรับในสิทธิท่ีทดั เทียมและไม่มีการแบ่งแยกของประชาชนทุกคน ตอ้ งมีพ้ืนฐานของเสรีภาพ ความ ยตุ ิธรรม และสันติภาพ แต่ทงั น้ีก็ตอ้ งใหค้ วามสาคญั ต่อสิทธิและความรับผดิ ชอบโดยทดั เทียมกนั เพื่อใหเ้ กิด เป็นพ้ืนฐานทางจริยธรรม เพื่อท่ีชายและหญิงทุกคนสามารถดารงชีวิตร่วมกันโดยสันติและบรรลุซ่ึง ศกั ยภาพของตนอยา่ งเต็มที่ ส่วนระเบียบโลกท่ีดีข้ึนทงั ในระดบั ชาติและนานาชาตินนั ไม่อาจเกิดข้ึนไดโ้ ดย กฎหมาย คาสังและขอ้ ตกลงเท่านนั แต่ตอ้ งมีจริยธรรมสากลดว้ ย ความปรารถนาในความก้าวหน้าของ มนุษยจ์ ะเป็นจริงไดด้ ว้ ยการมีค่านิยมและมาตรฐานที่เห็นพอ้ งกนั และนามาประยุกต์ใชก้ บั ประชาชนและ สถาบนั ทงั หลายตลอดเวลา 
  ปีหนา้ จะครบรอบ50ปีของการรับร่างปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติวาระ ครบรอบน้ีจะเป็นโอกาสในการรับร่างปฏิญญาสากลว่าดว้ ยความรับผิดชอบของมนุษยชน ซ่ึงจะเป็นส่วน เสริมของปฏิญญาวา่ ดว้ ยสิทธิมนุษยชน ช่วยเสริมใหแ้ ขง็ แกร่งและช่วยนาทางสู่โลกที่ดีข้ึน 
  ร่างปฏิญญาวา่ ดว้ ยความรับผิดชอบของมนุษยชนต่อไปน้ี เป็นความพยายามที่จะทาให้เสรีภาพและ ความรับผดิ ชอบมีความสมดุลและเพ่อื ส่งเสริมการกา้ วออกจากเสรีภาพของการเพิกเฉย สู่ เสรีภาพของการมี ส่วนร่วม ถา้ บุคคลหรือรัฐบาลใดตอ้ งการแสดงเสรีภาพอยา่ งสูงสุด แต่กระทบต่อผอู้ ่ืนก็จะทาให้คนจานวน มากกวา่ ตอ้ งเดือดร้อน ถา้ มนุษยใ์ ชเ้ สรีภาพของตนอยา่ งเตม็ ท่ีดว้ ยการปลน้ ทรัพยากรธรรมชาติของโลก ก็จะ ทาใหค้ นรุ่นหลงั เดือดร้อน 
  การริเริมร่างปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยความรับผิดชอบของมนุษยชน ไม่ใช่เพียงเพื่อถ่วงดุลเสรีภาพดว้ ย ความรับผดิ ชอบเท่านนั แต่ยงั เป็นการประนีประนอมระหวา่ งอุดมการณ์ ความเช่ือ และทศั นะทางการเมืองท่ี ดูเหมือนทาใหเ้กิดการเป็นปฏิปักษส์ มยั ก่อนร่างปฏิญญาท่ีเสนอไวน้ ้ีช้ีใหเ้ห็นวา่ การเรียกร้องสิทธิฝ่ายเดียว นาไปสู่ขอ้ พิพาทและความขดั แยง้ ไม่มีท่ีสินสุด ช้ีวา่ กลุ่มทางศาสนาที่พยายามกดดนั เพื่อเสรีภาพของตน ก็มี หนา้ที่ตอ้งเคารพต่อเสรีภาพของผอู้่ืนเช่นกนั ดงันนัหลกัการพ้ืนฐานจึงควรมีเป้าหมายที่การมีเสรีภาพสูงสุด แต่ก็ตอ้ งสร้างสานึกของความรับผดิ ชอบซ่ึงจะช่วยใหเ้สรีภาพมีการเติบโตข้ึนได้ 
  สภาปฏิสมั พนั ธ์ไดท้ างานเพอื่ ร่างชุดของมาตรฐานทางจริยธรรมของมนุษยน์ บั แต่ปี 1987 เป็นตน้ มา แต่การทางานของสภาตงั อยู่บนภูมิปัญญาของผูน้ าทางศาสนาและนกั ปราชญ์จากอดีตจนถึงปัจจุบนั ท่าน งั หลายไดเ้ ตือนวา่ เสรีภาพที่ปราศจากการยอมรับในเรื่องความรับผิดชอบ สามารถทาลายเสรีภาพโดยตวั มนั เอง แต่ถา้ สิทธิและความรับผิดชอบมีความสมดุลกนั เสรีภาพก็จะไดร้ ับการส่งเสริมและสามารถสร้าง โลกท่ีดีกวา่ 

สภาปฏิสัมพนั ธ์ขอเสนอร่างปฏิญญาต่อไปน้ีเพ่ือใหท้ ่านไดพ้ ิจารณาและใหก้ ารสนบั สนุนต่อไป 


ปฏิญญาสากลว่าด้วยความรับผดิ ชอบของมนุษยชน
(นาเสนอโดยสภาปฏิสัมพนั ธ์) 

อารัมภบท 

โดยที่ การยอมรับในศกั ด์ิศรีและความเสมอภาคและสิทธิซ่ึงไม่สามารถแบ่งแยกของสมาชิกทุกคนของ ครอบครัวมนุษย์คือรากฐานแห่งเสรีภาพความยตุ ิธรรมและสันติภาพในโลกและหมายถึงการมีพนั ธะกรณี หรือความรับผดิชอบ 
โดยท่ี การยืนยนั ในสิทธิเพียงฝ่ายเดียวสามารถส่งผลเป็นความขดั แยง้ การแบ่งแยก และขอ้ พิพาทไม่มีที่ สินสุดและการละเลยต่อความรับผดิ ชอบของมนุษยส์ ามารถนาไปสู่ภาวะไร้กฎหมายและความวนุ่ วาย 
โดยที่ หลกั นิติศาสตร์และการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนข้ึนอยกู่ บั ความพร้อมของชายและหญิงต่อการกระทา ดว้ยความเป็นธรรม 
โดยท่ี ปัญหาของโลกตอ้ งใชว้ ธิ ีแกไ้ ขแบบสากล ที่จะเกิดข้ึนไดด้ ว้ ยความคิด ค่านิยม และบรรทดั ฐานซ่ึงเป็ น ท่ีเคารพของวฒั นธรรมและศาสนาทงั หมด 
โดยท่ี ประชาชนทุกคน มีความรับผิดชอบดว้ ยความรู้และความสามารถอย่างถึงท่ีสุดต่อการส่งเสริมความ เป็นระเบียบทางสังคมที่ดีข้ึนทงั ในบา้ นและระดบั โลกซ่ึงเป็นเป้าหมายที่ไม่สามารถบรรลุไดด้ ว้ ยกฎหมาย คาสังและขอ้ ตกลงเพียงอยา่ งเดียว 
โดยท่ี ความปรารถนาความก้าวหน้าและการปรับปรุงให้ดีข้ึนของมนุษยจ์ ะเกิดข้ึนไดจ้ ริงก็ต่อเม่ือมีการ ประยกุ ตค์ ่านิยมและมาตรฐานซ่ึงเป็นที่ยอมรับกบั ประชาชนทุกคนและสถาบนั ทุกแห่งตลอดเวลา 


ดังนั้น 

สมัชชาใหญ่ 

จึงขอประกาศให้ปฏิญญาสากลว่าด้วยความรับผิดชอบของสิทธิมนุษยชน เป็ นมาตรฐานร่วมกันของ ประชาชนทุกคนและชาติทุกชาติ เพ่ือไปให้ถึงเป้ าหมายที่บุคคลทุกคนและองคาพยพทุกส่วนของสังคม สามารถจดจาปฏิญญาน้ีไดท้ นั ที ซ่ึงจะเป็นการส่งเสริมความกา้ วหนา้ ของชุมชนและต่อการรู้แจง้ ของสมาชิก ในชุมชนทุกคนเราซ่ึงเป็นประชาชนของโลกจึงฟ้ืนฟูและสนบั สนุนพนั ธะสัญญาที่ได้กล่าวไวแ้ ล้วใน ปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยสิทธิมนุษยชน กล่าวคือ มีการยอมรับศกั ด์ิศรีของประชาชนทุกคน เสรีภาพท่ีแบ่งแยก ไม่ไดแ้ ละความเสมอภาค และความเป็นนาหน่ึงใจเดียวกบั ผูอ้ ื่นควรมีการสอนและส่งเสริมเร่ืองการ ตระหนกั ถึงและการยอมรับความรับผดิ ชอบดงั กล่าวไปทวัโลก 


หลกั การพนื้ ฐานของมนุษยชน 

ข้อที่1 

บุคคลทุกคนไม่ว่าจะมีเพศชาติพนั ธุ์โดยกาเนิดสถานะทางสังคมความคิดเห็นทางการเมืองภาษาอายุ สัญชาติ หรือศาสนาใด มีความรับผดิ ชอบต่อการปฏิบัติต่อผ้อู นื่ ทกุ คนแบบมนุษย์พงึ ปฏบิ ัติต่อกนั 

ข้อท่ี2 

ไม่มีบุคคลใดควรใหก้ ารสนบั สนุนต่อพฤติกรรมผดิ มนุษยใ์ ดๆ แต่คนทุกคนมีความรับผิดชอบต่อการต่อสู้ เพื่อศกั ด์ิศรีและความภาคภูมิใจในตวั เองของผอู้ ื่นทุกคน 

ข้อที่3 

ไม่มีบุคคลกลุ่มหรือองคก์ รไม่มีรัฐไม่มีกองทพั หรือตารวจอยู่เหนือความดีและความชวัทุกฝ่ายลว้ นตอ้ ง ปฏิบตั ิตามมาตรฐานทางจริยธรรม ทุกคนมีความรับผดิ ชอบต่อการส่งเสริมความดีและหลีกเลี่ยงความชวัใน ทุกสิง 

ข้อที่4 

ประชาชนทุกคน ผูม้ ีเหตุผลและจิตสานึก ตอ้ งยอมรับเร่ืองความรับผิดชอบต่อกนั และกนั และทุกคน ต่อ ครอบครัวและชุมชน ต่อชาติพนั ธุ์ ชาติ และศาสนาดว้ ยจิตวิญญาณของความเป็นนาหน่ึงใจเดียว จงอย่า ปฏิบตั ิต่อผอู้ ่ืนในสิงท่ีท่านไม่ปรารถนาจะใหผ้ อู้ ่ืนปฏิบตั ิต่อท่าน 

การไม่ใช้ความรุนแรง และการเคารพต่อชีวติ 

ข้อท่ี5 

บุคคลทุกคนมีความรับผดิ ชอบต่อการเคารพในชีวติ ไม่มีใครมีสิทธิที่จะทาร้าย ทรมาน หรือสังหารผอู้ ่ืน แต่ ไม่รวมถึงสิทธิในการป้ องกนั ตวั เองดว้ ยเหตุผลสมควรของบุคคลและชุมชน 

ข้อที่6 

ความขดั แยง้ ระหวา่ งรัฐ กลุ่ม หรือบุคคลควรไดร้ ับการแกไ้ ขโดยปราศจากการใชค้ วามรุนแรง ไม่มีรัฐบาลใด อดทนหรือมีส่วนในการกระทาที่เป็นการฆ่าลา้ งเผ่าพนั ธุ์หรือการก่อการร้าย หรือมีส่วนในการใชส้ ตรี เด็ก หรือพลเรือนใดๆ เป็นเคร่ืองมือของสงคราม พลเมืองและเจา้ หนา้ ท่ีของรัฐทุกคนมีความรับผิดชอบต่อการ กระทาดว้ ยสนั ติวธิ ี ไม่มีการใชค้ วามรุนแรง 

ข้อที่7 

บ ุ ค ค ล ท ุ ก ค น ม ี ค ่ า แ ล ะ ต อ้ ง ไ ด ร้ ั บ ก า ร ป ก ป ้ อ ง โ ด ย ไ ม ่ ม ี เ ง ่ ื อ น ไ ข ส ั ต ว แ์ ล ะ ส ิ ง แ ว ด ล อ้ ม ท า ง ธ ร ร ม ช า ต ิ ก ็ ต อ้ ง ก า ร การปกป้ องเช่นกัน ประชาชนทุกคนมีความรับผิดชอบต่อการปกป้ องอากาศ นา และดินของโลกเพ่ือ ประโยชนข์ องผอู้ ยอู่ าศยั ในปัจจุบนั และอนาคต 

ความยตุ ธิ รรมและความเป็ นนา้ หน่ึงใจเดยี วกัน 

ข้อที่8 

บุคคลทุกคนมีความรับผดิ ชอบต่อการประพฤติตนดว้ ยความสุจริต ซื่อสัตยแ์ ละเป็นธรรม ไม่มีบุคคล หรือ กลุ่มใดสามารถปลน้ หรือแยง่ ชิงทรัพยส์ ินของบุคคลหรือกลุ่มอื่น 

ข้อที่9 

ประชาชนทุกคน มีความรับผดิ ชอบต่อการพยายามอยา่ งเต็มที่เพื่อเอาชนะความยากจน ภาวะทุพโภชนา การ ละเลยและความไม่เสมอภาคดว้ ยเคร่ืองมือที่จาเป็นประชาชนควรส่งเสริมการพฒั นาอย่างยงัยืนทวัโลก เพื่อใหเ้ กิดความมนัใจในศกั ด์ิศรี เสรีภาพ ความมนัคง และความยตุ ิธรรมแก่ประชาชนทุกคน 

ข้อที่10 

ประชาชนทุกคนมีความรับผดิ ชอบต่อการพฒั นาความสามารถของตนดว้ ยความอุตสาหะพยายาม ประชาชน ควรเขา้ ถึงการศึกษาและงานที่มีความหมายโดยทดั เทียมกนั ทุกคนควรใหก้ ารสนบั สนุนแก่ผทู้ ี่ตอ้ งการความ ช่วยเหลือ ผดู้ อ้ ยโอกาส ผพู้ ิการและเหยอื่ ของการเลือกปฏิบตั ิ 

ข้อที่11 

ทรัพยส์ ินและความมงัคงังั หมดตอ้ งถูกใชด้ ว้ ยความรับผิดชอบดว้ ยความยุติธรรม และเพ่ือความกา้ วหน้า ของชาติพนั ธุ์มนุษย์อานาจทางเศรษฐกิจและการเมืองตอ้ งไม่ถูกใชเ้พ่ือเป็นเคร่ืองมือของการครอบงาแต่ เพอื่ ส่งเสริมความยตุ ิธรรมทางเศรษฐกิจและระเบียบทางสังคม 

ความไว้วางใจและขันติธรรม 

ข้อที่12 

บุคคลทุกคนมีความรับผิดชอบต่อการพูดและการกระทาที่ไวว้ างใจได้ ไม่ควรมีใคร ไม่ว่าจะสูงส่งหรือมี อานาจเพียงใดพูดเท็จสิทธิเรื่องความเป็นส่วนตวั และการเขา้ ถึงขอ้ มูลท่ีเป็นความลบั ส่วนบุคคลและทาง วชิ าชีพเป็นสิงท่ีตอ้ งเคารพ ไม่มีใครถูกบงั คบั ใหต้ อ้ งพดู ความจริงทุกอยา่ งแก่ทุกคนตลอดเวลา 

ข้อท่ี13 

ไ ม ่ ม ี น กั ก า ร เ ม ื อ ง ข า้ ร า ช ก า ร ผ ู น้ า ธ ุ ร ก ิ จ น ั ก ว ิ ท ย า ศ า ส ต ร ์ น ั ก เ ข ี ย น ห ร ื อ ศ ิ ล ป ิ น ค น ใ ด ไ ด ้ ร ั บ ก า ร ย ก เ ว น้ จ า ก มาตรฐานทางจริยธรรมทวัไป หรือมีแพทย์ ทนายความ และผปู้ ระกอบวิชาชีพใดๆ มีหนา้ ท่ีพิเศษต่อคนไข้ จรรยาบรรณวชิาชีพและจรรยาบรรณอ่ืนๆควรสะทอ้นถึงมาตรฐานที่มีความสาคญัสูงสุดเช่นมาตรฐานเรื่อง ความไวว้างใจและความเป็นธรรม 

ข้อที่14 

เสรีภาพของสื่อในการใหข้ อ้ มูลข่าวสารแก่สาธารณชน และในการวิจารณ์สถาบนั ของสังคมและการกระทา ของรัฐบาล ซ่ึงเป็นสิงสาคญั ต่อสังคมที่มีความยุติธรรม ตอ้ งใช้ดว้ ยความรับผิดชอบและดุลพินิจ เสรีภาพ ของสื่อมีความรับผิดชอบพิเศษต่อการรายงานข่าวที่ถูกตอ้ งและเป็นความจริง การรายงานข่าวที่มีความ อ่อนไหวสร้างความเส่ือมเสียแก่บุคคลหรือศกั ด์ิศรีเป็นสิงท่ีพึงหลีกเลี่ยงตลอดเวลา 

ข้อที่15 

แมเ้สรีภาพจะเป็นสิงท่ีต้องได้รับการรับประกันแต่ผูแ้ ทนของศาสนาก็มีความรับผิดชอบพิเศษต่อการ หลีกเล่ียงไม่แสดงความลาเอียงและการกระทาท่ีเป็นการเลือกปฏิบตั ิต่อผทู้ ่ีมีความเชื่อแตกต่างเขาไม่ควร ก ร ะ ต ุ น้ ห ร ื อ ท า ใ ห ค้ ว า ม เ ก ล ี ย ด ช งั ค ว า ม ค ล งั ไ ค ล ้ แ ล ะ ส ง ค ร า ม ศ า ส น า ก ล า ย เ ป ็ น ส ิ ง ท ี ่ ม ี ค ว า ม ช อ บ ธ ร ร ม แ ต ่ ค ว ร ส่งเสริมใหม้ ีขนั ติธรรมและการเคารพซ่ึงกนั และกนั ระหวา่ งคนทุกคน 

การเคารพซึ่งกนั และกนั และการเป็นหุ้นส่วน 

ข้อที่16 

บุรุษและสตรีทุกคนมีความรับผิดชอบ ต่อการแสดงความเคารพต่อผอู้ ื่นและต่อการทาความเขา้ ใจในความ เป็นหุน้ ส่วนของตน ไม่ควรมีใครทาใหผ้ อู้ ื่นตกอยใู่ นฐานะของการถูกเอารัดเอาเปรียบหรือการพ่ึงพาทางเพศ แต่คู่นอนควรยอมรับเรื่องความรับผิดชอบในการดูแลเอาใจใส่สวสั ดิภาพของอีกฝ่ายหน่ึง 

ข้อที่17 

การสมรส ในท่ามกลางความหลากหลายทางวฒั นธรรมและศาสนา นนั ตอ้ งมีความรัก ความภกั ดี และการ ใหอ้ ภยั และควรมีเป้าหมายท่ีการรับประกนั ความมนัคงและการสนบั สนุนซ่ึงกนั และกนั 

ข้อท่ี18 

การวางแผนครอบครัวอย่างเหมาะสมคือความรับผิดชอบของทุกคน ความสัมพนั ธ์ระหว่างพ่อแม่และลูก ควรแสดงให้เห็นถึงความรักความเคารพการยกย่องและความห่วงใยซ่ึงกนั และกนั ไม่ควรมีพ่อแม่หรือ ผใู้ หญ่คนอ่ืนมาเอาเปรียบ ข่มเหง หรือทารุณกรรมต่อเดก็ ๆ 

สรุป 

ข้อที่19 

ไม่มีส่วนใดของปฏิญญาน้ีถูกตีความวา่ มีความหมายวา่ รัฐ กลุ่ม หรือบุคคลมีสิทธิใดๆ ในการเขา้ ไปมีส่วนใน กิจกรรมหรือกระทาการท่ีมีเป้ าหมายเพ่ือการทาลายความรับผิดชอบ สิทธิ และเสรีภาพใดๆ ท่ีกล่าวไวใ้ น ปฏิญญาน้ีและในปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยสิทธิมนุษยชน ปี 1948 


ปฏิญญาสากลว่าด้วยความรับผดิ ชอบของมนุษยชน 
 
รายงานเกยี่ วกบั ข้อสรุปและคาแนะนา 
โดยการประชุมกล่มุ ผ้เูชี่ยวชาญระดับสูง
เฮลมุท ชมิดท์ เป็ นประธาน
วนั ที่ 20-22 เมษายน ปี 1997  
เวยีนนา,ออสเตรีย

บัดนีถ้ ึงเวลาของการพดู คุยเร่ืองความรับผดิ ชอบของมนุษยชนแล้ว 
 

การเรียกร้องของสภาปฏิสมั พนั ธ์เพ่อื ใหม้ ีการจดั ทาปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยความรับผิดชอบของมนุษยชนเป็น สิงที่ถูกกาละเทศะ แมท้ ่ีผา่ นมาเราจะพดู ถึงสิทธิมนุษยชน และโลกเรากา้ วเดินมาไกลมากแลว้ ในแง่ของการ ยอมรับและการปกป้ องในระดบั นานาชาติ นบั แต่สหประชาชาติยอมรับปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยสิทธิมนุษยชน เมื่อปี 1948 บดั น้ีถึงเวลาของการพูดคุยเร่ืองการริเริมการแสวงหาการยอมรับในหนา้ ที่หรือพนั ธะกรณีของ มนุษยซ์ ่ึงมีความสาคญั ไม่แพก้ นั 
  การเนน้ ยาเรื่องพนั ธะกรณีของมนุษย์มีเหตุผลหลายประการดว้ ยกนั แน่นอนวา่ แนวคิดน้ีเป็นเร่ือง ใหม่สาหรับบางภูมิภาคในโลกน้ีเท่านนั เพราะหลายสังคมมีความคิดเกี่ยวกบั ความสัมพนั ธ์ของมนุษยใ์ นแง่ ของพนั ธะกรณีมากกวา่ สิทธิของมนุษยม์ าชา้ นานแลว้ โดยทวัไปก็เป็นเรื่องจริงตวั อยา่ งเช่นความคิดของชาว ตะวนั ออกส่วนมากในขณะที่โลกตะวนั ตกมีการเนน้ ยากรอบความคิดเรื่องเสรีภาพและความเป็นปัจเจกชน อยา่ งนอ้ ยก็ในช่วงศตวรรษท่ี 17 ซ่ึงเป็นยุคแห่งแสงสวา่ งทางปัญญา แต่ทางตะวนั ออก ความเชื่อเรื่องความ รับผดิ ชอบและชุมชนเป็นสิงท่ีแพร่หลาย ดงั นนั ความจริงที่วา่ ปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยสิทธิมนุษยชนถูกร่างข้ึน แทนที่จะเป็นปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยหนา้ ที่ของมนุษย์จึงไม่ใช่เรื่องน่าสงสัยเพราะมนั สะทอ้ นถึงภูมิหลงั ทาง ปรัชญาและวฒั นธรรมของผรู้ ่างปฏิญญาซ่ึงอย่างที่ทราบกนั ว่า เป็นมหาอานาจตะวนั ตกซ่ึงผงาดข้ึนมาใน ฐานะผชู้ นะสงครามโลกครังที่สอง 

กรอบความคิดเร่ืองพนั ธะกรณีของมนุษย์ก็ทาหน้าที่ในการถ่วงดุลความเชื่อเรื่องเสรีภาพและความ รับผดิ ชอบ กล่าวคือ ในขณะที่สิทธิมีความสัมพนั ธ์กบั เสรีภาพมากกวา่ นนั พนั ธะกรณีก็มีความเกี่ยวขอ้ งกบั ความรับผิดชอบ และถึงแมจ้ ะมีความแตกต่าง แต่เสรีภาพและความรับผิดชอบต่างก็พ่ึงพาซ่ึงกนั และกนั ความรับผิดชอบ ในฐานะที่เป็นคุณภาพทางศีลธรรมอย่างหน่ึง ทาหน้าที่เป็นตวั ตรวจสอบเสรีภาพโดย ธรรมชาติและโดยสมคั รใจ ไม่สามารถแสดงออกเสรีภาพโดยไม่จากดั ไม่วา่ จะในสังคมใดก็ตาม ดงั นนั ยงิมี เสรีภาพมากเท่าไร ก็ตอ้ งแบกรับความรับผดิ ชอบต่อผอู้ ื่นรวมทงั ตวั เรามากข้ึนเท่านนั ยิงเรามีความสามารถ มากท่าไร ความรับผิดชอบต่อการพฒั นามนั อย่างสุดความสามารถก็มากข้ึนเท่านนั เราตอ้ งก้าวออกจาก เสรีภาพของการเพิกเฉย สู่เสรีภาพของการมีส่วนร่วม 
  เมื่อพจิ ารณาอีกดา้ นหน่ึงมนั ก็เป็นจริงเช่นกนั กล่าวคือระหวา่ งท่ีเราสร้างสานึกแห่งความรับผดิ ชอบ เราก็เพมิเสรีภาพภายในดว้ ยการสร้างความแขง็ แกร่งแก่คุณลกั ษณะทางศีลธรรมของเรา เมื่อเสรีภาพนาเสนอ ความเป็นไปไดข้ องการกระทาที่แตกต่าง ซ่ึงรวมถึงการเลือกทาสิงที่ถูกตอ้ งหรือไม่ถูกตอ้ ง คุณลกั ษณะทาง ศีลธรรมท่ีมีความรับผดิ ชอบจะทาใหม้ นัใจไดว้ า่ โอกาสทาอยา่ งแรกมีมากกวา่ 
  เมื่อพจิ ารณาอีกดา้ นหน่ึงมนั ก็เป็นจริงเช่นกนั กล่าวคือระหวา่ งท่ีเราสร้างสานึกแห่งความรับผดิ ชอบ เราก็เพมิเสรีภาพภายในดว้ ยการสร้างความแขง็ แกร่งแก่คุณลกั ษณะทางศีลธรรมของเรา เมื่อเสรีภาพนาเสนอ ความเป็นไปไดข้ องการกระทาที่แตกต่าง ซ่ึงรวมถึงการเลือกทาสิงที่ถูกตอ้ งหรือไม่ถูกตอ้ ง คุณลกั ษณะทาง ศีลธรรมท่ีมีความรับผดิ ชอบจะทาใหม้ นัใจไดว้ า่ โอกาสทาอยา่ งแรกมีมากกวา่ 
  แต่ถา้ ไม่ถ่วงดุลใหด้ ี เสรีภาพที่ไร้ขอบเขตก็เป็นอนั ตรายพอๆกบั ความรับผิดชอบทางสังคมแบบที่ ถูกยดั เยียด ความไม่ยตุ ิธรรมทางสังคมอยา่ งรุนแรงเป็นผลจากเสรีภาพทางเศรษฐกิจแบบสุดโต่งและความ ละโมบของทุนนิยม ทวา่ การกดขี่เสรีภาพพ้ืนฐานของประชาชนอยา่ งโหดร้าย กลายเป็นสิงท่ีถูกตอ้ งในนาม ของผลประโยชน์ทางสังคมหรืออุดมการณ์แบบคอมมิวนิสต์ 
  แต่การกระทาอย่างสุดโต่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ไม่ใช่สิงท่ีพึงปรารถนาในปัจจุบนั เมื่อความ ขดั แยง้ ระหว่างตะวนั ออกและตะวนั ตกสูญหายไปเช่นเดียวกบั การสินสุดของสงครามเย็น มนุษยชาติดู เหมือนเขา้ ใกลภ้ าวะสมดุลระหวา่ งเสรีภาพและความรับผดิ ชอบที่ปรารถนามากข้ึน เราต่อสู้เพื่อเสรีภาพและ สิทธิมาตลอดบดัน้ีถึงเวลาส่งเสริมเรื่องความรับผดิชอบและพนัธะกรณีของมนุษยแ์ลว้ 

สภาปฏิสัมพนั ธ์เชื่อว่าการโลกาภิวตั น์ของเศรษฐกิจโลก มาพร้อมกบั การโลกาภิวตั น์ปัญหาของโลกดว้ ย เพราะการพ่ึงพาอาศยั ในระดบั โลกทาให้เราตอ้ งดารงอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่นดว้ ยความกลมเกลียว มนุษยจ์ าเป็นตอ้ ง มีกฎเกณฑ์และการควบคุมจริยธรรมคือมาตรฐานขนั ต่าสุดท่ีช่วยให้สามารถดารงชีวิตร่วมกันได้ถ้า ปราศจากจริยธรรมและการควบคุมตวั เองอนั เป็นผลลพั ธ์ของมนั แลว้ มนุษยชาติจะหวนคืนสู่หลกั การความ อยรู่ อดของผทู้ ี่มีความเหมาะสมที่สุด โลกกาลงั ตอ้ งการพ้ืนฐานทางจริยธรรมเพือ่ การยนื หยดั 
  ดว้ยตระหนกัถึงความตอ้งการน้ีสภาปฏิสัมพนัธ์จึงเริมตน้คน้หามาตรฐานทางจริยธรรมสากลดว้ย การจดั ประชุมร่วมกบั ผนู้ าทางจิตวญิ ญาณและผนู้ าทางการเมืองเม่ือเดือนมีนาคม ปี 1987 ท่ี ลา ซิวลิ ตา กตั โต ลิกา ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี การริเริมน้ีเกิดข้ึนจาก ทาเคโอะ ฟูกุดะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นผลู้ ่วงลบั แ ล ะ เ ป ็ น ผ กู ้ ่ อ ต งั ส ภ า ป ฏ ิ ส ั ม พ นั ธ ์ ใ น ป ี 1 9 8 3 แ ล ะ ใ น ป ี 1 9 9 6 ส ภ า ไ ด ข้ อ ร า ย ง า น จ า ก ก ล ุ ่ ม ผ เ ู ้ ช ี ่ ย ว ช า ญ ร ะ ด บั ส ู ง ใ น หวั ขอ้ มาตรฐานทางจริยธรรมสากล และในการจดั การประชุมใหญ่ที่แวนคูเวอร์เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 1996 สภาไดร้ ับรายงานของกลุ่มซ่ึงประกอบดว้ ยผนู้ าทางศาสนาจากหลายศาสนาและผเู้ชี่ยวชาญจากทวัโลกขอ้ คน้ พบของรายงานน้ี การแสวงหามาตรฐานทางจริยธรรมสากลแสดงให้เห็นว่าศาสนาของโลกมีสิงที่มี หลกั การพ้ืนฐานร่วมกนั และสภาได้รับรองคาแนะนา ในปี 1998 ซ่ึงเป็นปีครบรอบ 50 ปีของการรับ ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน สหประชาชาติควรจดั การประชุมเพ่ือพิจารณาเร่ืองปฏิญญาว่าดว้ ย พนั ธกรณีของมนุษย์เพอ่ื เป็นส่วนเสริมเร่ืองสิทธิมนุษยชนที่มีข้ึนก่อนหนา้ ” 
  การริเริมเพ่ือจดั ทาร่างปฏิญญาสากลว่าดว้ ยความรับผิดชอบของมนุษยชน ไม่ใช่เพียงแต่เป็นวิธี รักษาสมดุลระหว่างเสรีภาพและความรับผิดชอบเท่านนั แต่ยงัเป็นหนทางในการประนีประนอมระหว่าง อุดมการณ์และทศั นะทางการเมืองที่ทาใหเ้กิดการเป็นปฏิปักษใ์ นอดีตดงั นนั หลกั การพ้ืนฐานจึงไดแ้ ก่มนุษย์ ควรมีเสรีภาพสูงสุด แต่ก็ควรสร้างสานึกเกี่ยวกบั ความรับผดิ ชอบอยา่ งถึงท่ีสุดเช่นกนั เพื่อคอยควบคุมให้มี การใชเ้สรีภาพอยา่ งเหมาะสม 
  เรื่องน้ีไม่ใช่แนวคิดใหม่เลย เพราะศาสดา นกั บุญ และนกั ปราชญต์ ลอดช่วงหลายพนั ปี ที่ผา่ นมา ได้ สังสอนมนุษยชาติใหแ้ สดงความรับผดิ ชอบอยา่ งเต็มท่ี ตวั อยา่ งเช่นในช่วงศตวรรษของเรา มหาตมะ คานธี ไดส้ งัสอนเกี่ยวกบั บาปทงั เจด็ ประการ ดงั น้ี 


1.เล่นการเมืองโดยไม่มีหลกั การ

2. ทาการคา้ โดยไม่มีศีลธรรม

3. สร้างความร่ารวยโดยไม่ตอ้ งทางาน

4.มีความรู้ดีแต่ลกั ษณะนิสัยไม่ดี

5. วทิ ยาศาสตร์กา้ วหนา้ ทวา่ ไม่มีมนุษยธรรม

6. สร้างความสุขสาราญโดยปราศจากจิตสานึก

7. เคารพบูชาทวา่ ไม่ยอมเสียสละ 

อยา่ งไรก็ดี โลกาภิวตั น์ ก็ทาใหเ้ กิดความเร่งด่วนใหม่ๆ ต่อคาสอนของคานธีและผนู้ าทางจริยธรรมท่านอ่ืนๆ การใชค้ วามรุนแรงบนหนา้ จอทีวบี ดั น้ีถูกถ่ายทอดผา่ นดาวเทียมไปทวัโลก การเก็งกาไรในตลาดการเงินท่ี ห่างไกลสามารถทาลายล้างชุมชนในท้องถิน อิทธิพลของนักธุรกิจเอกชนที่ยิงใหญ่และร่ารวยปัจจุบนั ใ ก ล เ ้ ค ี ย ง ก บั อ า น า จ ข อ ง ร ั ฐ บ า ล แ ต ่ ไ ม ่ เ ห ม ื อ น น กั ก า ร เ ม ื อ ง ท ี ่ ม า จ า ก ก า ร เ ล ื อ ก ต งั ต ร ง ท ี ่ ไ ม ่ ม ี ค ว า ม ร ั บ ผ ิ ด ช อ บ ต ่ อ อานาจส่วนตวั น้ี เวน้ แต่ในส่วนของสานึกเรื่องความรับผิดชอบส่วนตวั ของเขาเท่านนั โลกไม่เคยตอ้ งการ ปฏิญญาวา่ ดว้ ยความรับผดิ ชอบของมนุษยชาติมากไปกวา่ น้ีอีกแลว้ 

จากสิทธิสู่พนั ธกรณี 
ดว้ ยเหตุท่ีสิทธิและหนา้ ที่เก่ียวพนั กนั จนแยกไม่ออก แนวคิดเรื่องสิทธิของมนุษยจ์ ะมีความหมายก็ต่อเม่ือเรา ยอมรับวา่ หนา้ ที่ของคนทุกคนคือการเคารพมนั แต่ไม่วา่ ค่านิยมของสังคมจะเป็ นอยา่ งไร ความสัมพนั ธ์ของ มนุษยก์ ็ตงั อยบู่ นการมีอยขู่ องสิทธิและหนา้ ที่เหมือนกนั ทงั หมด 
  ไม่จาเป็นตอ้ งมีระบบจริยธรรมที่ซบั ซอ้ นเพ่ือช้ีนาการกระทาของมนุษยแ์ ต่อยา่ งใด มีกฎโบราณอยู่ ขอ้ หน่ึงซ่ึงถา้ ปฏิบตั ิตามอยา่ งแทจ้ ริง ช่วยให้มีความมนัใจในเร่ืองความสัมพนั ธ์ของมนุษยท์ ี่มีความยตุ ิธรรม ได้ นนัคือกฎทองคา ถา้ มองใน่แง่ลบ กฎทองคาคือคาสังวา่ เราไม่ควรทาสิงที่เราไม่ตอ้ งการให้ผอู้ ื่นทาต่อเรา กบั ผูอ้ ื่นเช่นกนั ส่วนในแง่บวกมนั มีความหมายถึงบทบาทในเชิงรุกและคานึงถึงผลประโยชน์และความ รับผดิ ชอบต่อชุมชน: จงอยา่ ปฏิบตั ิต่อผอู้ ื่นในสิงที่ท่านไม่ปรารถนาจะใหผ้ อู้ ่ืนปฏิบตั ิต่อท่าน 
  ดว้ยคานึงถึงกฎทองคาขอ้น้ีปฏิญญาสากลวา่ดว้ยสิทธิของมนุษยชนจึงเป็นจุดเริมตน้ท่ีดีเลิศสาหรับ การพิจารณาพนั ธะกรณีหลกั ซ่ึงจาเป็นต่อการเสริมสิทธิเหล่านนั 


  • ถา้ เรามีสิทธิท่ีจะมีชีวติ เราก็มีพนั ธกรณีต่อการเคารพชีวติ เช่นกนั
  • ถา้ เรามีสิทธิที่จะมีเสรีภาพ เราก็มีพนั ธะกรณีต่อการเคารพเสรีภาพของผอู้ ื่นเช่นกนั
  • ถา้ เรามีสิทธิท่ีจะมีความมนัคง เราก็มีพนั ธะกรณีต่อการสร้างเงื่อนไขเพ่ือให้มนุษยท์ ุกคนไดม้ ีความ มนัคงของมนุษยเ์ช่นกนั
  • ถา้ เรามีสิทธิท่ีจะมีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมืองและเลือกผนู้ าของประเทศเรา เราก็มีพนั ธะ กรณีต่อการมีส่วนร่วมและทาใหแ้ น่ใจวา่ ไดเ้ลือกผนู้ าท่ีดีที่สุดแลว้
  • ถา้ เรามีสิทธิท่ีจะทางานภายใตเ้ ง่ือนไขที่ยุติธรรมและน่าพอใจเพื่อการมีมาตรฐานการครองชีพที่ดี ทงั ต่อตวั เราและครอบครัวของเรา เราก็มีพนั ธะกรณีต่อการปฏิบตั ิงานอยา่ งสุดความสามารถเช่นกนั
  • ถ้าเรามีสิทธิที่จะมีเสรีภาพทางความคิด จิตสานึกและศาสนา เราก็มีพนั ธะกรณีต่อการเคารพ ความคิดหรือหลกั การทางศาสนาของผอู้ ่ืนเช่นกนั
  • ถ า้ เ ร า ม ี ส ิ ท ธ ิ ท ี ่ จ ะ ไ ด ร้ ั บ ก า ร ศ ึ ก ษ า เ ร า ก ็ ม ี พ นั ธ ะ ก ร ณ ี ต ่ อ ก า ร เ ร ี ย น ร ู ้ ใ ห ม้ า ก เ ท ่ า ท ี ่ ค ว า ม ส า ม า ร ถ ข อ ง เ ร า จะทาได้ และถา้ เป็ นไปไดใ้ หแ้ บ่งปันความรู้และประสบการณ์ของเรากบั ผอู้ ื่น
  • ถา้ เรามีสิทธิท่ีจะไดร้ ับประโยชน์จากทรัพยากรโลก เราก็มีพนั ธะกรณีต่อการเคารพ ห่วงใย และ ฟ้ื นฟูโลกและทรัพยากรของโลกเช่นกนั 


ในฐานะมนุษย์ เรามีศกั ยภาพในการเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์อย่างไม่จากดั ดงั นนั เราจึงมีพนั ธะกรณีต่อการ พฒั นาขีดความสามารถทางกายภาพอารมณ์ปัญญาและจิตวิญญาณของเราอย่างถึงที่สุดความสาคญั ของ กรอบความคิดเรื่องความรับผิดชอบต่อการบรรลุซ่ึงการสานึกในตนเองก็เป็นสิงที่ไม่สามารถมองข้าม เช่นกนั 


รายชื่อผ้เูข้าร่วมการประชุม 
 

สมาชิกสภาปฏิสัมพนัธ์ 

ฯพณฯ เฮลมุท ชมิดท์
ฯพณฯแอนเดรอสั ฟานแอกต์
ฯพณฯ มิเกล เดอ ลา แมดริด อูตาร์โด


ทปี่รึกษาทางวชิาการ

ศาสตราจารย์ฮนัส์คุง,มหาวทิยาลยัทูบิงเงน 
ศาสตราจารย์โทมสัเอสแอกซ์เวริ์ทธี,ศาสตราจารยว์ฒุิคุณดา้นนโยบายสาธารณะมหาวทิยาลยัฮาร์วาร์ด 
ศาสตราจารย์ คิม ยอง-ดงั , มหาวทิ ยาลยั แห่งชาติโซล


ผ้เู ชี่ยวชาญระดับสูง

พระคาร์ดินลั ฟรานซ์โคนิก,เวยีนนา,ออสเตรีย
ศาสตราจารย์ฮสัซนัฮานาฟี,มหาวทิยาลยัไคโร
ดร. อริยะรัตเน
, ประธานขบวนการสรรโวทยั แห่งศรีลงั กา
ท่านเจมส์เอชออตลีย์ผนู้ ่าเคารพ
,ผสู้ ังเกตการณ์นิกายแองกลิคนั แห่งสหประชาชาติ ดร.เอม็อราม,ประธาน,การประชุมระดบัโลกวา่ดว้ยศาสนาและสันติภาพ(สมาชิกสภา,อินเดีย)
ดร. จูเลีย ชิง (ผแู้ ทนลทั ธิขงจื๊อ)
ดร.แอนนา
-มารีอาการ์ด,สภาศาสนจกัรโลก
ดร.เทรีแมคลูฮนั
,นกัเขียน
ศาสตราจารย์ เยอร์สุ คิม
, ผอู้ านวยการกองงานปรัชญาและจริยธรรม แห่งยเู นสโก 
ศาสตราจารย์ ริชาร์ด รอร์ต้ี, ศนู ยม์ นุษยศาสตร์สแตนฟอร์ด 
ศาสตราจารย์ปีเตอร์แลนเดสมานน์,สถาบนัวทิยาศาสตร์ยโุรป,ซาลสเบิร์ก 
เอกอคัรราชทูตโคจิวาตานาเบ,อดีตเอกอคัรราชทูตญี่ปุ่นประจารัสเซีย 

สื่อมวลชน 

คุณฟลอราลูอิส,อินเทอร์เนชนัแนลเฮอรัลด์ทรีบูน
คุณวู ซุง-ยอง, มูห์วา อิลโบ


ผ้ปู ระสานงานโครงการ 

เคอิโกะอทัสุมะ,เลขาธิการสภาปฏิสมั พนั ธ์ประจากรุงโตเกียว 



ผ้รู ับรองปฏิญญา 
ปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยความรับผดิ ชอบของมนุษยชาติไดร้ ับการรับรองจากบุคคลดงั ต่อไปน้ี 


I. สมาชิกสภาปฏิสัมพนั ธ์

เฮลมุท ชมิดท์ (ประธานกิตติมศกั ด์ิ) 

  • อดีตนายกรัฐมนตรีสหพนัธ์สาธารณรัฐเยอรมนี 

มัลคอล์ม เฟรเซอร์ (ประธาน) 

  • อดีตนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย 

แอนเดรอสั เอ เอม็ ฟาน แอกต์ 

  • อดีตนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ 

อานันท์ ปัญญารชุน 

  • อดีตนายกรัฐมนตรีไทย 

ออสการ์อารีอสั ซานเชส 

  • อดีตประธานาธิบดีคอสตาริกา้ 

ลอร์ด คัลลาแฮนแห่งคาร์ดิฟ

  • อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจกั ร 

จิมมี คาร์เตอร์

  • อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 

มิเกลเดอลาแมดริดอตู าร์โด

  • อดีตประธานาธิบดีเมก็ซิโก 

เคิร์ต ฟูร์กเลอร์

  • อดีตประธานาธิบดีสวติเซอร์แลนด์ 

วาเลรี จิสการ์ด เดสแตง

  • อดีตประธานาธิบดีฝรังเศส 

เฟลเิ ป กอนซาเลส มาร์ เควส

  • อดีตนายกรัฐมนตรีสเปน 

มิคาอลิ เอส กอร์บาชอฟ

  • ประธานสภาโซเวยีตสูงสุดและประธานาธิบดีสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวยีต 

เซลมิ ฮอสส์

  • อดีตนายกรัฐมนตรีเลบานอน 

เคนเนธคาอนุ ดา

  • อดีตประธานาธิบดีแซมเบีย 

ลี กวน ยู

  • อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ 

คิอชิ ิ มิยาซาวะ

  • อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ป่ ุน 

มิซาเอล ปาสตรานา บอร์เรโร

  • อดีตประธานาธิบดีโคลอมเบีย(เสียชีวติในเดือนสิงหาคม) 

ซิโมน เปเรส

  • อดีตนายกรัฐมนตรีอิสราเอล 

คาเลวีซอร์ซา

  • อดีตนายกรัฐมนตรีฟิ นแลนด์ 

ป ิ แ อ ร ์ เ อ ล เ ล ยี ต ท ร ู โ ด

  • อดีตนายกรัฐมนตรีแคนาดา 

โอลาอลุ สเตน 

  • อดีตนายกรัฐมนตรีสวเีดน 

จอร์จ วาสซิลอิ ู

  • อดีตประธานาธิบดีไซปรัส 

ฟรานซ์ วรานิทสกี้

  • อดีตประธานาธิบดีออสเตรีย 


II.ผ้สู นับสนุน 

อาลีอลาตสั ,รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย 
อบั ดุลลาซิส อลั -กุรายชิ, อดีตประธาน ซามา เลสเตอร์ บราวน์, ประธานสถาบนั จบั ตาโลก แอนเดรชูราคี,ศาสตราจารยใ์นอิสราเอล
จอห์น บี คอบบ์ จูเนียร์
, คณะเทววทิ ยาแห่งมหาวทิ ยาลยั แคลร์มอนต์
ทาคาโก โดอิ
, ประธาน พรรคเสรีนิยมประชาธิปไตยญี่ป่ ุน
ก นั ค า โ ต ะ , อ ธ ิ ก า ร บ ด ี ม ห า ว ทิ ย า ล ยั ก า ร ค า้ แ ห ่ ง ช ิ บ ะ
เฮนรี เอ คิสซิงเจอร์
, อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา
เทด็ ดี คอลเลค
, นายกเทศมนตรีเยรูซาเลม
วลิ เลียม ลฟั ลิน
, ผปู้ ระกอบการชาวอเมริกนั
ชวาสัน ลี กวาง จุง
, พระอาจารย,์ พทุ ธศาสนาวอน
เฟเดอริโกเมเยอร์ผอู้ านวยการใหญ่องคก์ ารยเูนสโก
โรเบิร์ต เอส แมคนามารา
, อดีตประธาน ธนาคาโลก
แรบไบ ดร. เจ มาโกเนต
, อาจารยใ์ หญ่, ลิโอ เบค คอลเลจ โรเบิร์ตมุลเลอร์,อธิการบดีมหาวทิยาลยัสันติภาพ
คอนราดเรสเซอร์
,สภาศาสนจกัรโลก
โจนาธาน แซคส์
, หวั หนา้ แรบไบแห่งสหราชอาณาจกั ร
เซอิจุโร ชิโอกาวะ
, อดีตนายกรัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายใน, การศึกษาและคมนาคมของญี่ป่ ุน เรอเน ซามูเอล ซิรัต, หวั หนา้ แรบไบแห่งฝรังเศส เซอร์ซิกมนัด์สเติร์นเบิร์ก,สภาคริสเตียนและยวินานาชาติ มาซาโยชิทาเคมูระ,อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลงัญี่ปุ่น แกสตนัธอร์น,อดีตนายกรัฐมนตรีลกัเซมเบอร์ก
พอลวอลก์เกอร์,ประธาน,เจมส์ดีวลูฟ์เฟนซอห์นอิงค์
คาร์ล ฟรีดริช วี ไวส์ซคั เคอร์, นกั วทิ ยาศาสตร์
ริชาร์ด วี ไวส์ซคั เคอร์, อดีตประธานาธิบดีสหพนั ธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
มาห์มูด แซคซุค, รัฐมนตรีกระทรวงศาสนา, อียปิ ต์

III.ผเู้ขา้ ร่วม(ในการประชุมเตรียมการที่กรุงเวยี นนา,ออสเตรียเดือนมีนาคมปี 1996และเมษายนปี 1997) และแขกพิเศษ(การประชุมใหญ่ที่นอร์ดวคิ , เนเธอร์แลนด์ เดือนมิถุนายน ปี 1997)

ฮนัส์คุง,มหาวทิยาลยัทูบิงเงน (ที่ปรึกษาทางวชิาการของโครงการ)
โทมสั เอสแอกซ์เวริ์ทธี,มูลนิธิซีอาร์บี (ที่ปรึกษาทางวชิาการของโครงการ)
คิม
, ยอง-ดงั , มหาวทิ ยาลยั แห่งชาติโซล (ที่ปรึกษาทางวชิาการของโครงการ)
พระคาร์ดินลั ฟรานซ์โคนิก
,เวยีนนา,ออสเตรีย แอนนา-มารีอาการ์ด,สภาศาสนจกัรโลก
เอเอ มุคแรม
, อลั -กมั ดี, สถาบนั คิง ฟาฮดั
เอม็ อราม
, การประชุมระดบั โลกวา่ ดว้ ยศาสนาและสันติภาพ เอที อริยรัตเน, ขบวนการสรรโวทยั แห่งศรีลงั กา จูเลียชิง,มหาวทิยาลยัโทรอนโท
ฮสัซนั ฮานาฟี
,มหาวทิยาลยัไคโร นากาฮารูฮายาบูชิ,หนงัสือพิมพอ์าซาฮีชิมบุน
เยอร์สุคิม,กองการปรัชญและจริยธรรม,ยเูนสโก
ปี เตอร์ แลนเดสมานน์, สถาบนั วทิ ยาศาสตร์แห่งยโุ รป
ลี
,ซุง-ยนุ ,อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคณะกรรมการวางแผนเศรษฐกิจสาธารณรัฐเกาหลี ฟลอราลูอิส,อินเทอร์เนชนัแนลเฮอรัลด์ทรีบูน
หลิว
,เส่ียว-เฟิง,สถาบนัจีน-คริสเตียนศึกษา
เทรีแมคลูฮนั
,นกัเขียนชาวแคนาดา
อิซามุ มิยาซากิ
, อดีตรัฐมนตรี สานกั งานวางแผนเศรษฐกิจ ญี่ป่ ุน
เจเจเอน็ รอสต์ออนเนส
,รองกรรมการผจู้ดัการใหญ่ฝ่ายบริหาร,ธนาคารเอบีเอน็แอมโร
เจมส์ ออตลีย
,์ ผสู้ งั เกตการณ์นิกายแองกลิคนั แห่งสหประชาชาติ
แอลเอม็ สิงห์ว
,ีขา้หลวงใหญ่ประจาอินเดีย
มาร์จอรี ฮิววติ ซูชอคกี
, คณะเทววทิ ยาแห่งมหาวทิ ยาลยั แคลร์มอนต์ ไซเคนซูกิอุระ,สภาผแู้ทนราษฎรญี่ปุ่น
โคจิวาตานาเบ
,อดีตเอกอคัรราชทูตญี่ปุ่นประจารัสเซีย
,ู ซุง-ยงั , มุนห์วา อิลโบ
วู ฮูเฉียน
, รองประธาน การประชุมที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งประชาชนจีน
อเล็กซานเดอร์ ยาคอฟเลฟ
, อดีตสมาชิก สภาประธานาธิบดีแห่งสหภาพโซเวยี ต 


ปฏิญญาจาการ์ตา (2003)

แถลงการณ์จากการประชุมผ้นู าทางการเมืองและทางศาสนาของสภาปฏสิ ัมพนั ธ์ 

การประสานรอยแยก 

วนั ที่ 11-12 มนี าคม ปี 2003 
ฮาบีบีเซ็นเตอร์, จาการ์ตา อนิ โดนีเซีย 

นับแต่ก่อตงั เป็นต้นมา สภาปฏิสัมพนั ธ์มีความห่วงใยเก่ียวกับค่านิยมทางศีลธรรมและมาตรฐานทาง จริยธรรม โดยเฉพาะอยา่ งยงิในส่วนของความเป็นผนู้ าทางการเมืองและธุรกิจ 
  ปี 1987 สภาไดจ้ ดั การประชุมปรึกษาหารือกบั ผนู้ าทางศาสนาเรื่องสันติภาพ การพฒั นา ประชากร และสิงแวดลอ้ มท่ีกรุงโรม และที่การประชุมท่ีกรุงเวียนนาในปี 1996 สภาไดใ้ ห้ความสาคญั ต่อการแสวงหา มาตรฐานทางจริยธรรมสากล ซ่ึงเป็นท่ียอมรับของทุกศาสนา ที่ประชุมไดร้ ่างปฏิญญาสากลว่าดว้ ยความ รับผดิ ชอบของมนุษยชนซ่ึงสภามองวา่ ถา้ เป็นที่ยอมรับแลว้ จะช่วยเสริมการทางานของปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ย สิทธิมนุษยชนอยา่ งมาก และในปี 1999 ในการประชุมท่ีกรุงไคโร สภาก็ไดป้ ระชุมเพื่อพิจารณาถึงนยั สาคญั ทางศาสนาของความขดัแยง้ในตะวนัออกกลาง 
  นอกจากน้ีเหตุการณ์โจมตีนิวยอร์กและกรุงวอชิงตนั ดีซีท่ีน่ากลวั และสร้างความโศกสลด ทาให้ สภาเป็ นห่วงวา่ สงครามต่อตา้ นการก่อการร้ายจะทาใหเ้ กิดเงื่อนไขต่อการเกิดความขดั แยง้ ระหวา่ งศาสนา ในวงกวา้ งข้ึน 


ดงั นนั จึงควรระลึกถึงขอ้ พิจารณาต่อไปน้ี 

1. สถานการณ์โลกในปัจจุบนั โดยเฉพาะอยา่ งยงิสงครามต่อตา้ นการก่อการร้ายและการแพร่กระจายของ อาวธุ อานุภาพทาลายลา้ งสูง สามารถนาไปสู่ความไร้เสถียรภาพและการล่มสลายของระเบียบโลก 

2. แมว้ า่ ผกู้ ่อการร้ายบางกลุ่มจะมีแรงจูงใจจากความเกลียดชงั และความริษยา แต่กลุ่มอ่ืนมีวตั ถุประสงคแ์ ละ จุดประสงคเ์ฉพาะซ่ึงเป็นเรื่องในทอ้ งถินและไม่ไดม้ ีนยั ความหมายแบบสากล 

3. ความเป็นจริงท่ีไม่น่าพิสมยั อยา่ งหน่ึงคือ นโยบายของประเทศตะวนั ตกบางเรื่องถูกมองวา่ เป็นสาเหตุของ การก่อการร้ายเจตคติเช่นน้ีเกิดข้ึนจากการรับรู้ถึงความไม่ยตุ ิธรรมในศาสนาสาคญั จากความไม่ทดั เทียมที่มี มากข้ึนระหว่างคนจนและคนรวย ซ่ึงรวมถึงความจริงที่ว่ามีคนจานวนมากในหลายประเทศท่ีถูกทิงไว้ เบ้ืองหลงั เพราะไม่มีทรัพยากรสาหรับเขา้ ไปมีส่วนร่วมในโลกยุคโลกาภิวตั น์น้ี เจตนาและความจาเป็นท่ีอยู่ เบ้ืองหลงัเป้าหมายการพฒั นาแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติคือการระดมทรัพยากรการเงินการเมือง ศีลธรรม และสถาบนั ของโลกเพ่อื สร้างมาตรฐานการครองชีพที่ดีแก่ประชาชนทุกคน จะตอ้ งถูกนามาปฏิบตั ิ จริง 

4.ความยุติธรรมเชิงกลยุทธ์และเศรษฐกิจและดุลยภาพระหว่างชาติต่างๆในโลกควรเป็นวตั ถุประสงค์ ต่อเน่ือง ซ่ึงจะบรรลุไดจ้ ริงดว้ ยความร่วมมือ ความเขา้ ใจและการสร้างความไวว้ างใจ ดงั นนั จึงควรกาหนด นโยบายเพ่อื การบรรลุเป้ าหมายดงั กล่าว 

5.การประกาศใหส้ งครามเป็นสิงผดิ กฎหมายเวน้ แต่เพื่อการป้องกนั ตวั เองหรือไดร้ ับการอนุมตั ิภายใตก้ ฎ บตั รขอ้ ท่ี

6 โดยคณะมนตรีความมนัคงแห่งสหประชาชาติ ถือเป็นภยั คุกคามต่อสันติภาพและความมนัคง ระหว่างประเทศ คือความกา้ วหนา้ ครังสาคญั ในการส่งเสริมสันติภาพ ถา้ รัฐต่างๆ ยอมรับในหลกั การของ การเปิดฉากโจมตีก่อนเพียงฝ่ายเดียวผลงานในการส่งเสริมกฎหมายระหวา่ งประเทศตลอด50ปีที่ผา่ นมาก็ ถือวา่ จบสินกนั 


ดว้ ยเหตุน้ี 

I.เราจึงเรียกร้องผนู้ าทางศาสนาทุกท่านใหป้ ฏิเสธอยา่ งเปิดเผยต่อการสร้างความชอบธรรมทางศาสนาใดๆ แก่การใชค้ วามรุนแรงและการก่อการร้าย 

II. เราขอเร่งรัดผนู้ าโลกให้ดาเนินขนั ตอนเชิงบวก เพ่ือกา้ วขา้ มการแบ่งแยกระหวา่ งคนต่างศาสนาและชาติ พนั ธุ์เพอ่ื การก่อตงั โลกท่ีมีความร่วมมือกนั มากข้ึนโดยที่การอภิปรายและฉนั ทามติจะเป็นตวั ตดั สินผลลพั ธ์ และเพ่อื ร่วมกนั ทางานเพอ่ื ความยตุ ิธรรมระหวา่ งชาติต่างๆในโลกน้ี 

III. เราเรียกร้องทุกรัฐทงั ใหญ่และเล็กใหร้ ่วมทางานกบั และผา่ นองคก์ ารสหประชาชาติ และโดยเฉพาะอยา่ ง ยิงคณะมนตรีความมนัคง ซ่ึงเป็นวิธีการในการบรรลุซ่ึงความยุติธรรม ดุลยภาพ และสันติภาพท่ีเหมาะสม เ ร า เ ร ่ ง ร ั ด ช า ต ิ ต ่ า ง ๆ ใ ห ้ ส น บั ส น ุ น ง า น ส า ค ญั ข อ ง ส ห ป ร ะ ช า ช า ต ิ แ ล ะ เ พ ่ ื อ ส ่ ง เ ส ร ิ ม บ ท บ า ท ข อ ง อ ง ค ก์ ร ด งั ก ล ่ า ว ในการแกป้ ัญหาความขดั แยง้ ระหวา่ งประเทศ 

IV. เราเรียกร้องทุกรัฐให้ยอมรับในค่านิยมของมนุษยแ์ ละมาตรฐานทางจริยธรรมพ้ืนฐาน ซ่ึงเป็นสิงที่ทุก ศาสนาและปรัชญาแนวมนุษยนิยมมีอยรู่ ่วมกนั และเพ่อื พฒั นาวฒั นธรรมของการไม่ใชค้ วามรุนแรงและการ เคารพต่อชีวติ วฒั นธรรมของความเป็นนาหน่ึงใจเดียวและระเบียบทางเศรษฐกิจที่ยตุ ิธรรมวฒั นธรรมของ การมีขนั ติธรรมและการดาเนินชีวิตด้วยความซ่ือสัตย์และวฒั นธรรมของสิทธิและการเป็นหุ้นส่วนที่ ทดั เทียมกนั ระหวา่ งชายและหญิง 

V. เราเรียกร้องทุกรัฐและศาสนาให้ยอมรับว่าลทั ธิก่อการร้ายพบเห็นได้ในศาสนาและอุดมการณ์ทาง การเมืองทุกประเภท และไม่วา่ จะพบเห็นมนั ท่ีไหน แมแ้ ต่ภายในพรมแดนของตนเอง ก็ตอ้ งประณามและ ปราบปราม 

VI. ดงั นนั เราจึงเรียกร้องผนู้ าทางการเมือง ศาสนาและมติมหาชน ให้รู้จกั ควบคุมและทาความเขา้ ใจกนั เพื่อ หลีกเลี่ยงการกระทาที่เป็นการก่อการร้ายในการกระทาของตนทุกอยา่ งและใหย้ อมรับในค่านิยมมาตรฐาน และเจตคติร่วมกนั ซ่ึงถา้ปราศจากสิงเหล่าน้ีแลว้ไซร้ก็จะไม่บงัเกิดสังคมมนุษยอ์ารยะ 

VII. และเราเรียกร้องทุกรัฐใหท้ างานโดยกา้ วขา้ มและหลุดพน้ จากเส้นแบ่งแยกพรมแดนและเพื่อต่อตา้ นการ กระทาตามอาเภอใจ การใชส้ องมาตรฐานและการเลือกปฏิบตั ิอยา่ งไม่เป็ นธรรมไม่วา่ จะพบเจอท่ีใดก็ตาม 

เราขอเนน้ วา่ วตั ถุประสงคแ์ ละค่านิยมดงั กล่าวเป็นเรื่องสากลและอยเู่ หนือพรมแดนของรัฐ บดั น้ีถึงเวลาที่จะ นาเจตนาของ ปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยความรับผดิ ชอบของมนุษยชนมาปฏิบตั ิ สิงที่ตอ้ งการในตอนน้ีคือ ภูมิ ปัญญาและการลงมือร่วมกนั เพ่ือการอยรู่่วมกนั ความร่วมมือและความยุติธรรมทางเศรษฐกิจแก่มนุษยชาติ หวนราลึกถึงหลกั การพ้นื ฐานของจริยธรรมสากลอีกครัง ซ่ึงไดแ้ ก่หลกั มนุษยธรรม มนุษยท์ ุกคนตอ้ งไดร้ ับ การปฏิบตั ิในฐานะที่เป็นมนุษย์และกฎทองคา จงอยา่ ปฏิบตั ิต่อผอู้ ่ืนในสิงที่ท่านไม่ปรารถนาจะให้ผอู้ ื่น ปฏิบตั ิต่อท่าน” 



ายชื่อผ้เู ข้าร่วม 

สมาชิกสภาปฏิสัมพันธ์ 
 
1. ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีมลั คอลม์ เฟรเซอร์, ออสเตรเลีย
2. ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี แอนเดรอสั ฟาน แอกต,์ เนเธอร์แลนด์ 
3. ฯพณฯ ประธานาธิบดี บาคารุดดิน ยซู ุฟ ฮาบิบี, อินโดนีเซีย
4. ฯพณฯ ประธานาธิบดี จามิล มาฮูอดั , เอกวาดอร์

ผ้นู าทางศาสนา

5. ท่านสวามี อคั นิเวช, อินเดีย (ฮินดู)
6. ดร. คาเมล อลั -ชาริฟ, เลขาธิการใหญ่ สภาอิสลามระหวา่ งประเทศ (มุสลิม)
7. ดร. เอที อริยรัตเน, ประธาน, ขบวนการสรรโวทยั , ศรีลงั กา (พุทธ)
8.อาร์คบิชอปฟรานซิสพีคาร์รอล, ประธาน, ที่ประชุมบิชอปคาธอลิกออสเตรเลีย, อาร์คบิชอปแห่ง แคนเบอร์รา และโกลเบอร์น, ออสเตรเลีย (คาธอลิก)
9.ท่านทิมคอสเตลโลผนู้่าเคารพ,นิกายแบบ๊ติสต,์ออสเตรเลีย(โปรเตสแตนต)์
10. คุณเจมส์ จอร์แดน, สมาชิกสภาสังฆมณฑล, ออสเตรเลีย (นิกายกรีกออร์โธดอกซ์)
11. ศาสตราจารย์ ลี ซุง-ฮวาน, ศาสตราจารยด์ า้ นปรัชญา, มหาวทิ ยาลยั เกาหลี, เกาหลี (ขงจื๊อ)
12. ศาสตราจารย์ ดร. เอ ไซยาฟี มาริฟ, ประธานมูฮมั มาดิยาห์, อินโดนีเซีย
13. คุณโรซี มูเนียร์, ประธาน นะห์ดาตุล อุลามะ, อินโดนีเซีย
14. เคเอช ฮสั ยมิ มูซาดี, ประธานใหญ่, นะห์ดาตุล อุลามะ, อินโดนีเซีย (มุสลิม)
15. ดร. คอนราด ไรเซอร์, เลขาธิการใหญ่ สภาศาสนจกั รโลก
16. ดร. เดวิด โรเซน, ผอู้ านวยการฝ่ายกิจการระหว่างศาสนานานาชาติของคณะรรมการชาวยิวอเมริกนั , สหรัฐอเมริกา(ยวิ)
17. ดร. รุสลี, เอสเอช เอม็ เอม็ , สมาคมชุมชนชาวพุทธแห่งอินโดนีเซีย, อินโดนีเซีย (พทุ ธ)
18. ดร. นาธาน เสทิอะบุดี, ประธานกลุ่มคริสตจกั รแห่งอินโดนีเซีย, อินโดนีเซีย (โปรเตสแตนต)์
19.ท่านไอเอน็ สุวนั ทะเอสเอช,ประธาน,สมาคมชุมชนฮินดูแห่งอินโดนีเซีย,อินโดนีเซีย(ฮินดู) 
20. ศาสตราจารย์ ดร. ดิน ไซยมั สุดิน, เลขาธิการใหญ,่ สภาอุลามะแห่งอินโดนีเซีย, อินโดนีเซีย (มุสลิม) 
21. ศิษยาภิบาล อเล็กซ์ วดิ โจโจ เอสเจ, คริสตจกั รนิกายโรมนั คาธอลิกแห่งจาการ์ตา, อินโดนีเซีย (คาธอลิก)

ผเู้ ขา้ ร่วมการประชุมท่านอื่นๆ

22.คุณแคทเธอรีนมาร์แชล, ผูอ้ านวยการ, การเสวนาเพื่อการพฒั นาว่าด้วยค่านิยมและจริยธรรม, ธนาคารโลก,สหรัฐอเมริกา
23.ดร.เอสเอม็ ฟาริดเมอร์บาแกรี,ผอู้ านวยการฝ่ายวจิ ยั ,ศูนยก์ ารเสวนาโลก,ไซปรัส
24.คุณไซเคนซูกิอุระ,สมาชิก,สภาผแู้ทนราษฎร,ญี่ปุ่น
25.คุณจางอ้ี-จุน, รองประธานคณะกรรมการกิจการต่างประเทศการประชุมของคณะกรรมการสภาที่ ปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติจีน ครังที่ 9, จีน

ที่ปรึกษาทางวิชาการ

26. ศาสตราจารยโ์ ทมสั เอส แอกซ์เวริ ์ทธี, ผอู้ านวยการบริหาร, มูลนิธิฮิสทอริกา, แคนาดา
27. ศาสตราจารย์ นากาโอะ ไฮโยโด, ศาสตราจารย,์ มหาวิทยาลยั โตเกียวเคอิไซ, ญี่ป่ ุน (รองเลขาธิการใหญ่ สภาปฏิสัมพนัธ์)
28. ศาสตราจารย์ อามิน ไซคาล, ผอู้ านวยการ, ศูนยอ์ าหรับและอิสลามศึกษา, ตะวนั ออกกลางและเอเชีย กลาง มหาวทิ ยาลยั แห่งชาติออสเตรเลีย, ออสเตรเลีย 
 



รายงานทบู ิงเงน(2007)

รายงานการประชุมกล่มุ ผ้เูชี่ยวชาญระดับสูงของท่านประธาน 
 
ศาสนาโลกในฐานะปัจจัยสาคญัในการเมอืงโลก 
 
ประธานการประชุม องิ วาร์ คาร์ลสัน, ประธานร่วม 
วนัท่ี7-8พฤษภาคมปี2007,ทบูิงเงน,เยอรมนี 

สภาปฏิสัมพนั ธ์มีส่วนในการเสวนาระหวา่ งผนู้ าทางการเมืองและผนู้ าทางศาสนานบั แต่ปี 1987เป็นตน้ มา โดยเป็นการอภิปรายในประเด็นเก่ียวกบั สันติภาพ การพฒั นาและสิงแวดลอ้ ม ในช่วงทศวรรษที่ผา่ นมา นกั คิดจากทุกศาสนาและปรัชญาทุกสานึกไดใ้ ห้ความสนใจต่อการระบุมาตรฐานทางจริยธรรมสากล ซ่ึงเป็น ท่ีมาของขอ้ เสนอเร่ือง ปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยความรับผดิ ชอบของมนุษยชน” 
  นบั แต่การเปลี่ยนผ่านสหัสวรรษเป็นตน้ มาประเด็นปัญหาที่โลกเผชิญเริมมีความซบั ซ้อนมากข้ึน กล่าวคือความเขา้ ใจผิดทางศาสนาทาให้เกิดความขดั แยง้ ปัญหาโลกร้อนซ่ึงส่งผลเสียหายต่อสิงแวดลอ้ ม และการก่อการร้ายที่ทาให้เกิดความหวาดกลวั ไปทวัโลกแลว้ ศาสนาจะเป็นพลงั เพื่อสันติภาพความนิยม และค่านิยมทางจริยธรรมไดไ้ หม? จะสามารถสังสอนเรื่องความดีงามของขนั ติธรรม ซ่ึงเป็นขนั ติธรรมที่เกิด จากความเคารพ ไม่ใช่เกิดจากความไม่ใส่ใจไดไ้ หม? สังคมจะสามารถตอบสนองต่อความทา้ ทายของการ เคารพอตั ลกั ษณ์ทางวฒั นธรรมและศาสนาของคนอื่นและชาติอื่นไดไ้ หม? โลกสามารถยอมรับความเป็น เพ่ือนบา้ นในโลกใหม่ไดไ้ หม? ผูน้ าจะสามารถป่าวประกาศความหวงั เพื่อให้เกิดแนวคิดเชิงบวกที่เป็น รูปธรรมไดไ้หม
  โลกอาจกา้ วสู่ยคุ แกนหลกั ความคิดยคุ ท่ีสอง โดยมีการเกิดศาสนาสมยั ใหม่เพิมข้ึนอยา่ งมาก และใน ปี 2007 การประชุมกลุ่มผเู้ ชี่ยวชาญระดบั สูง จดั ข้ึนเมื่อวนั ท่ี 7-8 มีนาคมที่ ทบู ิงเงน, เยอรมนี ซ่ึงเป็ นท่ีตงั ของ มลูนิธิจริยธรรมสากลท่ีมีช่ือเสียงระดบัโลกสภาปฏิสมัพนัธ์ไดข้อใหน้กัวิชาการทางศาสนาร่วมกนัพิจารณา วธิ ีในการคน้ หาความหมายในการดารงอยแู่ ละสันติภาพในการเมือง 

I.จุดยนื ร่วมกนั 

เราไม่ไดม้ ีแค่ศาสนายดู ายหน่ึงเดียว คริสตศ์ าสนาหน่ึงเดียว หรืออิสลามหน่ึงเดียว เราไม่ไดม้ ีแค่ศาสนาพุทธ หน่ึงเดียวหรือฮินดูหน่ึงเดียว แต่ยงั มีความเชื่อสารพดั รวมอย่ใู นศาสนาของจีน ศาสนาสาคญั ต่างก็มีความ ศรัทธา เทววทิ ยา และความเช่ือท่ีหลากหลายอยภู่ ายในทงั สิน 
  แมจ้ ะมีการยอมรับอยา่ งกวา้ งขวางถึงความสาคญั ของความหลากหลาย ภายใน ศาสนาต่างๆ แต่การ ยอมรับสิงที่มีอยู่ร่วมกนั ระหว่าง ศาสนาต่างๆ ก็มีความสาคญั ไม่แพก้ นั ก่อนหน้านนั ศาสนาซ่ึงนบั ถือใน พระเจา้องคเ์ดียวทงัสามศาสนาถูกมองวา่มีแนวคิดที่ตรงขา้มกนั แต่ตอนน้ีเราตอ้งมองศาสนาเหล่านนั วา่มี ความสัมพนั ธ์กับอีกศาสนาหน่ึง มากข้ึน ซ่ึงจะบรรลุเป้ าหมายน้ีได้ก็ด้วยการศึกษาระหว่างศาสนา โดยเฉพาะอยา่ งยงิการอภิปรายระหวา่ งศาสนานนั ควรจดั ทาดว้ ยความหวงั วา่ จะไดม้ ี การเรียนรู้ ไม่ใช่การสัง สอน 
  การเสวนาท่ีแทจ้ ริงคือศิลปะซ่ึงตอ้ งอาศยั การหล่อเล้ียงด้วยความใส่ใจ ทงั น้ีจะตอ้ งไม่ประเมิน ประโยชน์ของความสัมพนั ธ์ทางการเสวนาในระดบั บุคคล ทอ้ งถิน ชาติ หรือระหว่างประเทศต่าเกินไป เพราะการเสวนาไม่ใช่กลวิธีของการชกั จูงหรือกลยุทธ์ของการเปลี่ยนแปลง แต่เป็นวิธีสร้างความเขา้ ใจ ร่วมกนั ไดด้ ว้ ยการมีค่านิยมร่วมกนั ตอ้ งส่งเสริมใหม้ ีความรู้เก่ียวกบั ศาสนาและวฒั นธรรมของผอู้ ื่นมากข้ึน และขดัขวางการสรุปความหรือลงความเห็นแบบเหมารวม 
  การเสวนาทาใหเ้ราไดเ้ห็นถึงคุณค่าของการเรียนรู้จากผอู้่ืนในลกัษณะของการอา้งอิงร่วมกนั เม่ือ พ จิ า ร ณ า ใ น ร ะ ด บั ก ว า้ ง ข ้ ึ น เ ป ้ า ห ม า ย ก ็ ค ื อ ก า ร เ ป ็ น ส ั ง ค ม ข อ ง ก า ร เ ร ี ย น ร ู ้ ไ ม ่ ใ ช ่ ย งั ค ง เ ป ็ น ส ั ง ค ม ข อ ง ก า ร ส ั ง สอนและเพ่ือการสังสอนลูกหลานของเราเกี่ยวกบั สิงที่มีอยรู่ ่วมกนั ระหวา่ งศาสนาต่างๆของโลกไม่ใช่วา่ มี แต่ความแตกต่างเท่านนั 

ดงั นนั ปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยความรับผดิ ชอบของมนุษยชน จึงมีความสาคญั มากข้ึน เม่ือมีการยอมรับในเร่ือง จริยธรรมสากลร่วมกนั แลว้ นกั การเมือง นกั วิชาการทางศาสนา นกั อเทวนิยมและพวกอไญยนิยม(ผูไ้ ม่นบั ถือศาสนา) จึงบรรลุความเขา้ ใจร่วมกนั เสรีภาพทางศาสนารวมถึงสิทธิที่จะไม่มีการบีบบงั คบั ทางกายภาพ หรือศีลธรรมเพื่อให้ยอมรับศาสนาหรืออุดมการณ์ใดๆโดยเฉพาะ มาตรฐานทางจริยธรรมสากลน้ีเป็น เครื่องมือเพื่อการสร้างความเขา้ ใจและการเคารพต่อความเชื่อและจิตสานึกของผอู้ ื่น ดว้ ยเหตุน้ี เราจึงขอ ยนื ยนั ในปฏิญญาสากลซ่ึงเป็นท่ียอมรับของผนู้ าศาสนาของศาสนาสาคญั ทงั หมด วา่ ช่วยสร้างชุดจริยธรรม สากลที่มีอยใู่ นทุกศาสนา 

II. ความสัมพนั ธ์ระหว่างการเมืองและศาสนา 

ในการพิจารณาเกี่ยวกบั สิงที่มีอยู่ร่วมกนั ระหวา่ งศาสนาต่างๆ กลุ่มผูเ้ ช่ียวชาญระดบั สูงยงั ไดอ้ ภิปรายเร่ือง อิทธิพลของศาสนาในทางการเมืองอยา่ งมากดว้ ย ความตึงเครียดทางการเมืองและศาสนาถูกขยายดว้ ยการมี อยขู่ องขบวนการระดบั โลกซ่ึงดาเนินไปในทิศทางตรงกนั ขา้ ม กล่าวคือการทาให้เป็ นฆราวาสนิยมมากข้ึน ในบางส่วนของโลกและการทาใหม้ ีความเลื่อมใสศรัทธาในศาสนามากข้ึนในส่วนอ่ืนของโลกเมื่อพิจารณา สิงบ่งช้ีทุกอยา่ งพบวา่ การไปโบสถต์ ามปกติของคนในยโุ รปตะวนั ตกลดลงเหลือเพียง 20 เปอร์เซ็นตเ์ ท่านนั ในทางกลบั กนั ท่ีสหรัฐอเมริกาความเล่ือมใสศรัทธาในศาสนากลบั เพิมข้ึนและปัจจุบนั มีคนอเมริกนั ไป โบสถ์ทุกสัปดาห์ประมาณ 65 เปอร์เซ็นต์ ในขณะท่ีโลกอาหรับและส่วนอื่นๆของเอเชียก็มีความเล่ือมใส ศรัทธาในศาสนาเพิมข้ึนเช่นกนั 
 แมว้ า่ ขบวนการทางศาสนาจะสามารถใชอ้ ิทธิพลเชิงบวกในการเมืองแห่งชาติได้ แต่ศาสนาเองก็ถูก ใชป้ ระโยชน์และถูกใชใ้ นทางท่ีผดิ โดยผนู้ าทางการเมืองซ่ึงฉวยประโยชน์จากอวิชชา(ความไม่รู้) และหวา่ น เมล็ดพนั ธุ์แห่งความไม่มนัคงเพื่อรักษาอานาจของตนเอาไวอ้ ยบู่ ่อยครังเช่นกนั เม่ือรวมอวิชชา ศาสนาและ ลทัธิชาตินิยมเขา้ดว้ยกนั เท่ากบัสร้างโอกาสของการเกิดสงครามที่ล่อแหลมมากพลวตัที่เปี่ยมพลานุภาพ ระหว่างศาสนาและการเมือง ได้กระตุน้ ให้เกิดความขดั แยง้ ระหว่างประเทศและสนับสนุนระบอบการ ปกครองแบบกดข่ีทวัโลก เช่น การครอบครองที่สร้างความย่อยยบั และสงครามในอิรัก ที่รังแต่จะทาให้ ประเทศเสื่อมโทรม ความขดั แยง้ ท่ีฝังลึกระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ สงครามกลางเมืองท่ีกินเวลา ยาวนานในศรีลงั กา และการใชค้ วามรุนแรงใหม่ๆในประเทศไทย 
  ในความเป็นจริง การตดั สินใจทางการเมืองมกั มีความขดั แยง้ กบั หลกั การทางศาสนาที่พวกเขาใช้ เพื่อการปลุกปันลัทธิยึดมันในหลักการพ้ืนฐานไม่ใช่คุณสมบัติสาคญั ของศาสนดาใดๆเลยแต่เป็น ลกั ษณะเฉพาะของหลายศาสนา ภารกิจของเราจึงไดแ้ ก่การทา้ ทายผนู้ าทางศาสนาให้ป้ องกนั ศาสนาของตน จากการถูกนาไปใชใ้ นทางท่ีผดิ โดดเด่ียว ลทั ธิสุดโต่งทางศาสนาซ่ึงมีแนวโน้มที่จะใช้เพื่อการแสวงหา ประโยชน์ทางการเมืองใหก้ารสนบัสนุนและเสริมสร้างขบวนการทางศาสนาแบบสายกลาง 

III. ก้าวไปข้างหน้า 

แมป้ ัญหาจะยงุ่ ยากซบั ซอ้ นเพียงใดแต่กลุ่มผเู้ชี่ยวชาญระดบั สูงหลายคนยงั คงมองเห็นความหวงั อนั ริบหรี่บนเส้นทางที่ก้าวไปขา้ งหน้า รากฐานทางมานุษยวิทยาของศกั ด์ิศรีของมนุษย์ สิทธิมนุษยชน และความ รับผดิชอบของมนุษย์ทาใหโ้ลกมีหลกัจริยธรรมที่สามารถใชไ้ดใ้นระดบัสากล 
  ในยคุ ของการมีเพ่ือนบา้ นร่วมโลกใหม่น้ี เราจาเป็นตอ้ งมีพลเมืองโลกผมู้ ีความรับผิดชอบ ผนู้ าทาง ศาสนาในอนาคตจะยิงมีบทบาทสาคญั มากข้ึนพวกเขาต้องมีความเชี่ยวชาญในสองภาษาคือภาษาของ ชุมชนที่ตนศรัทธา และภาษาของพลเมืองโลก ซ่ึงจะเป็นโอกาสให้มีการเปิดรับจริยธรรมสากลทางการเมือง เศรษฐกิจ และความทดั เทียมกนั ทางสังคมระหวา่ งเผา่ พนั ธุ์ ศาสนาและเพศ 
  ป ร ะ เ ด ็ น ส า ค ญั ท ี ่ ส ุ ด ป ร ะ เ ด ็ น ห น ่ ึ ง ท ่ ี เ ร า ก า ล งั เ ผ ช ิ ญ อ ย ่ ตู อ น น ้ ี ค ื อ ก า ร ป ก ป ้ อ ง ส ิ ง แ ว ด ล อ้ ม เ พ ื ่ อ ค น ร ุ ่ น อนาคตสิงมีชีวติ ทุกสปีชีส์(เผา่ พนั ธุ์)ลว้ นมีคุณค่าต่อชีวติ ของโลกแต่ทุกวนั น้ีกลบั มีสปีชีส์ท่ีสูญพนั ธุ์ไปแลว้ กวา่ 100 สายพนั ธุ์ เร่ืองน้ีผนู้ าทางศาสนาก็มีบทบาทสาคญั ให้แสดง เพื่อการควบคุมพลงั ของประชาชน ใน การเผชิญหน้ากับความทา้ ทายของโลก โดยการให้พลังทางศีลธรรมเพื่อหล่อเล้ียงความอ่อนไหวด้าน นิเวศวทิ ยาเพื่อใหเ้กิดความพยายามในการคาจุนโลกเราตอ้ งเป็นผดู้ ูแลโลกไม่ใช่ผแู้ สวงหาประโยชน์ 
  ในช่วง 25 ปี ท่ีผา่ นมา การเสวนาระหว่างศาสนาต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยมีการยอมรับกนั มากข้ึนวา่ ความแตกต่างทางศาสนาไม่ควรเป็นอุปสรรคต่อมนุษยชาติ แต่ศาสนาควรจุดประกายใหค้ นคน้ หา ความดีเลิศในมนุษยชาติ แต่มนั เพงิจะเริมตน้ เท่านนั 

IV. คาแนะนา 

เพอื่ เป็นการกา้ วไปขา้ งหนา้ ประธานในท่ีประชุมกลุ่มผเู้ช่ียวชาญระดบั สูงจึงไดใ้ หค้ าแนะนาดงั ต่อไปน้ี 

  •   การยืนยนั และเสริมสร้างพลงั ในการจูงใจของปฏิญญาสากลว่าด้วยความรับผิดชอบของมนุษย:์ กล่าวคือเป็นการใส่ ความรับผดิ ชอบของมนุษย์ ลงไปในบริบทของจิตวิญญาณแห่งยุคสมยั ของ เรา และเน้นความสาคญั ของค่านิยมหลกั ซ่ึงไดแ้ ก่ ความยุติธรรม ความเห็นอกเห็นใจ ความเป็ น พลเมืองดี และความกลมเกลียว ซ่ึงมีการกล่าวถึงอยา่ งชดั เจนในปฏิญญา ทงั น้ีเพื่อช่วยใหเ้ กิดการ เสวนาอยา่ งแทจ้ ริงกบั ผทู้ ี่สนบั สนุนเรื่องสิทธิมนุษยชน 

  • ส่งเสริมให้เกิดความเขา้ใจว่าทุกศาสนาลว้นมีแก่นของบรรทดัฐานทางจริยธรรมร่วมกนั ซ่ึงไดแ้ก่ ความกลมเกลียวโดยไม่จาเป็นตอ้ งมีความเป็นเอกภาพ และการเสริมจิตสานึกของความเป็นพลเมือง โลกและหลกั มนุษยธรรมร่วมกนั ผา่ นมาตรฐานทางจริยธรรมสากล 

  • การสนบั สนุนแนวคิดและแนวปฏิบตั ิของความเป็ นพลเมืองโลก เพื่อกระตุน้ ให้เกิดปฏิสัมพนั ธ์ที่ เกิดผลระหว่างความปรารถนาของการเป็นผูร้ ู้จกั ตนเอง และพนั ธกรณีในความเป็นเพ่ือนบา้ นใน โลก 

  • การพฒั นาแผนปฏิบตั ิการผา่ นการศึกษาระหว่างศาสนาเพื่อเพิมขนั ติธรรม ความเคารพ การอา้ งอิง ร่วมกนั และการเรียนรู้เพ่ือให้เห็นถึงคุณค่าของความเป็นพหุนิยมของความเช่ือค่านิยมและแนว ปฏิบตั ิทางศาสนา 

  • การสนบั สนุนเสรีภาพทางศาสนาการสร้างเสริมขบวนการทางศาสนาท่ีสะทอ้ นถึงตวั เองอยา่ งเปิด กวา้ งและสันติ และการกระตุน้ ผูน้ าในทุกภาคส่วนของสังคมให้ร่วมมือกับผูน้ าทางศาสนาเพ่ือ ปฏิเสธและป้องกนั การถูกทาใหเ้ป็นเรื่องการเมืองและการใชศ้ าสนาในทางท่ีผดิ 

  • การรับรู้ถึงภยั คุกคามต่อความอยรู่ อดของเผา่ พนั ธุ์มนุษยแ์ ละการใชพ้ ลงั แห่งขบวนการทางศาสนา เ พ ื ่ อ จ ดั ก า ร ก บั ป ั ญ ห า ท า้ ท า ย ท า ง ด า้ น ส ิ ง แ ว ด ล อ้ ม ข อ ง ช ี ว ิ ต แ ล ะ ป ก ป ้ อ ง โ ล ก เ พ ื ่ อ ป ร ะ โ ย ช น ์ ข อ ง ค น ร ุ ่ น อนาคต และ 

  • ระบุวิธีในการส่งเสริมสันติภาพและความเป็นนาหน่ึงใจเดียวกนั ขณะเดียวกนั ก็สงวนไวซ้ ่ึงความ หลากหลายทางวฒั นธรรมและความเป็นพหุนิยมของชุมชนแห่งศรัทธา 



รายช่ือผ้เู ข้าร่วมการประชุม 
 

สมาชิกสภาปฏิสัมพันธ์ 
 
1. ฯพณฯ เฮลมุท ชมิดท,์ ประธานกิตติมศกั ด์ิ (อดีตนายกรัฐมนตรีเยอรมนี)
2. ท่านมลั คอลม์ เฟรเซอร์ ผทู้ รงเกียรติ, ประธานกิตติมศกั ด์ิ (อดีตนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย)
3. ฯพณฯ อิงวาร์ คาร์ลสนั , ประธานร่วม (อดีตนายกรัฐมนตรีสวเีดน)
4. ฯพณฯ อบั เดล ซาลาม มาจาลี (อดีตนายกรัฐมนตรีจอร์แดน)
5. ฯพณฯ ฟรานซ์ วรานิทสก้ี (อดีตนายกรัฐมนตรีออสเตรีย) 



ผเู้ชี่ยวชาญระดบัสูง

6. ดร. เอ คามาล อะบูลมกั ด์ (อิสลาม, ซุนนี), ทนายความ (อียปิ ต)์
7. ดร. เคเซวโิ น อะราม (ฮินดู), ผอู้ านวยการ, ชานติ อชั ราม (อินเดีย)
8. ดร. เมตตานนั โท ภิกขุ ผนู้ ่าเคารพ (ศาสนาพุทธ, นิกายเถรวาท), ท่ีปรึกษาพิเศษวา่ ดว้ ยกิจการศาสนาพุทธ ของการประชุมโลกวา่ ดว้ ยศาสนาเพื่อสันติภาพ (ไทย)
9. ศาสตราจารย์ ฮนั ส์ คุง (คริสเตียน), ศาสตราจารยก์ ิตติคุณ, มหาวทิ ยาลยั ทูบิงเงน (สวติ เซอร์แลนด)์
10. ศาสตราจารย์ คาร์ล-โจเซฟ คุสเชล (คริสเตียน), รองประธานมูลนิธิจริยธรรมสากล (เยอรมนี)
11. แรบไบ โจนาธาน แมโกเน็ต (ศาสนายดู าย), ลีโอ เบค๊ คอลเลจ (สหราชอาณาจกั ร)
12. อาร์คบิชอป มาการิออสแห่งเคนยา (กรีกออร์โธดอกซ์) (ไซปรัส)

13. ดร. สตีเฟน ชเลนซอก, ผเู้ ชี่ยวชาญดา้ นศาสนาฮินดู, เลขาธิการใหญ่, มูลนิธิจริยธรรมสากล (เยอรมนี)
14. ดร. อบั ดุลการิม โซรูช (อิสลาม, ชีอะต)์ (อิหร่าน)
15.ดร.ทูวายมิ่ง(ศาสนาและปรัชญาของจีน),มหาวทิยาลยัฮาร์วาร์ด,จีน
16. ดร. โอซามุ โยชิดะ (ศาสนาพุทธนิกายมหายาน), ศาสตราจารย,์ มหาวทิ ยาลยั โตโย (ญี่ป่ ุน) 



ที่ปรึกษา 

17.ดร.โทมสัเอสแอกซ์เวริ์ทธี,ศาสตราจารย,์มหาวทิยาลยัควนี(แคนาดา)
18. ดร. กุนเธอร์ เก๊บฮาร์ดต,์ มูลนิธิจริยธรรมสากล (เยอรมนี)
19. ศาสตราจารย์ นากาโอะ ไฮโยโด, อดีตเอกอคั รราชทตู ประจาเบลเยยี ม (ญ่ีป่ ุน) เลขาธิการใหญ่
20.ศาสตราจารยอ์ ิซามุมิยาซากิ,อดีตรัฐมนตรีการวางแผนเศรษฐกิจ(ญ่ีปุ่น) 

 


THAILAND Ver.